คุยกับ Penique Productions ศิลปินผู้ห่อทั้งโบสถ์จากด้านใน
หลายๆ คนคงจะต้องเคยเห็นงานก้องโลกของคุณ Christo และ Jeanne-Claude ที่ช่างห่อสถานที่สำคัญเช่นประตูชัยในเมืองปารีส ภูเขาเกาะกลางน้ำหรือสะพานใหญ่ๆ มาแล้ว คราวนี้เราจะมาแนะนำศิลปินที่เหมือนกับทำตรงกันข้าม คือห่ออาคารจากด้านในแทน พวกเขาคือ Penique Productions
คำถามแรกที่มักจะเกิดขึ้นมาแน่นอนก็คือ ศิลปินสร้างผลงานเล่นใหญ่แบบนี้ไปทำไม? คำตอบคือศิลปินแต่ละคนก็มีเหตุผลไม่เหมือนกัน อย่างคุณ Christo และ Jeanne ก็เลือกที่จะสื่อสารถึงเรื่องความสวยงามกับความไม่แน่นอน ผสมกับเรื่องราวในแต่ละสถานที่ ส่วน Penique Productions เองก็ต้องการสื่อสารถึงเรื่องราวและการรับรู้ประสบการณ์ในสถานที่นั้นๆ
Penique Productions นั้นเป็นสตูดิโอสร้างงานศิลปะจากประเทศสเปน ผลงานส่วนใหญ่ใช้การเป่าลมลูกโป่งพลาสติกอันยักษ์จากด้านใน และให้ผู้ชมเดินเข้าไปสัมผัส โดยเขาเคยทำกับสถานที่หลายๆ แห่งมาแล้วตั้งแต่อาคารรกร้างไปจนถึงโบสถ์ใหญ่ๆ เสร็จออกมาเป็นพื้นที่ที่ถูกย้อมไปด้วยพลาสติกหลากสี สถานที่เดิมแต่ประสบการณ์ไม่เหมือนเดิมแน่นอน
วันนี้ art of จะมาพาไปคุยกับคุณ Sergi จาก Penique Productions ว่าเขามีกระบวนการและความคิดยังไงเกี่ยวกับผลงานของเขาบ้าง หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินหลายๆ คน และผู้ที่ชื่นชอบงานงานออกแบบและศิลปะด้วย
art of: ช่วยเล่าเกี่ยวกับกระบวนการทำงานหน่อย ว่าคุณมีเบื้องหลังวิธีการคิดในแต่ละงานยังไงบ้าง?
Sergi: งานทุกอย่างเริ่มคิดจากสถานที่ก่อนเลย แต่ละบริบทสถานที่จะนำไปสู่การตัดสินใจเรื่องสี ขนาด รูปทรงและการจัดแสง และยังมีการเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันด้วย
art of: มีตอนไหนที่ชอบหรือยากเป็นพิเศษไหม?
Sergi: ตอนที่ชอบที่สุดคงจะเป็นตอนที่ทำงานเสร็จออกมาและได้เจอกับผู้คน ซึ่งหลายๆ คนไม่ได้รู้เรื่องงานนี้มาก่อน มันเป็นครั้งแรกเลยที่เขาเห็น เราตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้เห็นว่าคนคิดยังไงกับงาน ตอนที่ท้าทายที่สุดน่าจะเป็นการกำหนดวันในการจัดแสดงงานเพราะกระบวนการการทำงานค่อนข้างซับซ้อน
art of: เจ้าลูกโป่งนี้มีความสำคัญยังไงและส่งผลยังไงกับผู้ชมบ้าง?
Sergi: ลูกโป่งสีนี้ขยายไปในพื้นที่จนเหมือนสร้างอีกมิติหนึ่ง อีกความจริงหนึ่งขึ้นมาในสถานที่นั้น แต่ถ้าอยู่ข้างนอกลูกโป่งเราก็จะเห็นความพองของมันและรับรู้ว่ามันเป็นลูกโป่งด้วยเหมือนกัน ทำให้ผู้ชมยังรับรู้ว่าอยู่ในสถานที่เดิมแต่ก็ได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่
art of: คิดว่าศิลปะส่งผลยังไงต่อสถานที่ โดยเฉพาะสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์?
Sergi: ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องในอดีต ผมคิดว่าศิลปะเป็นเหมือนตัวเชื่อมผู้คนเข้ากับสถานที่ในปัจจุบัน ศิลปะช่วยส่งเสริมสถานที่ ช่วยตีความใหม่และยังช่วยให้คนเข้าใจและอิ่มเอมไปกับสถานที่มากขึ้นด้วย
art of: มีอุปสรรคอะไรบ้างไหมในการทำงานกับสถานที่เก่าแก่แบบนี้?
Sergi: การทำงานกับบางสถาบันก็มีอุปสรรคบ้าง แต่เราก็พยายามทำความเข้าใจและเคารพสถานที่ให้มากที่สุด อย่างเช่น วัสดุลูกโป่งพวกนี้ก็มีน้ำหนักเบามาก อากาศข้างในก็มีแรงดันต่ำมาก จึงแทบไม่ต้องห่วงเรื่องว่ามันจะไปทำของอะไรในสถานที่เสียหายเลย
art of: มีอะไรที่กำลังสำรวจ หรือทดลองทำเพิ่มเติมอยู่บ้างไหม?
Sergi: เราเริ่มทดลองนำพลาสติกจากหน้างานมาหลอมและอบเป็นใส่กรอบเป็นชิ้นงานศิลปะ ซึ่งออกมาดูดีมาก เหมือนเป็นการแปรรูปประสบการณ์และความรู้สึกจากสถานที่ที่แสดงงานนั้นๆ มาเป็นชิ้นงาน
art of: ถ้ามีโอกาสอยากลองมาสร้างผลงานในประเทศไทยบ้างไหม?
Sergi: ที่ประเทศไทยมีเรื่องราวน่าสนใจมาก โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม แค่คิดก็ลิสต์ออกมาได้เยอะแล้วครับ หวังว่าจะมีโอกาสได้ไปแสดงงานที่ประเทศไทยบ้าง เจอกันครับ!
art of: มีอะไรอยากฝากถึงเหล่าศิลปินทำกำลังพยายามสร้างผลงานที่มีคุณค่า มีความหมายในโลกนี้บ้าง
Sergi: ขอยกตัวอย่างคำพูดของ Lucy R. Lippard (2012)
“ทำอะไรที่ประจักษ์แก่สายตาผู้ชมต่อความรู้สึก ส่งผลต่อสังคมในวงกว้างอย่างยั่งยืนไม่ใช่เพียงในสถานที่แสดงงานศิลปะ สร้างงานศิลปะที่ไม่ทำร้ายใครและช่วยเปลี่ยนแปลงโลกในแบบของมันได้ ” – Lucy R. Lippard (2012)
ใครสนใจไปดูกระบวนการทำงานของ Penique Productions เพิ่มเติม ตามไปดูได้ที่
