Paradistopia – เทคโนโยนี กับการเล่าเรื่องผ่านโลก Retro Futurism

หลังจากที่ได้พูดคุยกับทีมผู้สร้างถึงเบื้องหลังของซีรีส์ ‘Tomorrow and I’ หรือ ‘อนาฅต’ จาก Netflix ทั้งสี่ตอนกันไปแล้วในบทความก่อน จึงมาขอเจาะลึกหนึ่งในตอนที่เป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก ก็คือตอน ‘Paradistopia – เทคโนโยนี’ นั่นเอง

ตอน Paradistopia เล่าถึงเมือง Gamalore (เมืองสมมติ) ที่มีเจสสิก้า (แสดงโดย วิโอเลต วอเทียร์) สร้างธุรกิจหุ่น Sex robot ขึ้นมา เพื่อหวังแก้ปัญหาสังคมที่ไม่มีใครกล้าพูดถึงและไม่ยอมรับว่ามีอยู่

นอกจากเนื้อเรื่องและการแสดงที่เข้มข้นแล้ว สิ่งที่ชัดเจนมากที่สุดของซีรีส์ตอนนี้ก็คือ ภาพของหุ่นยนต์และเทคโนโลยียุคใหม่ ที่ผสมผสานอยู่กับฉากและองค์ประกอบหลายอย่างที่ดูย้อนยุค ซึ่งตรงข้ามกับซีรีส์ตอนอื่นๆ ที่ทุกอย่างดูจะล้ำสมัยไปข้างหน้าตามแบบฉบับหนัง Sci-fi ที่คุ้นเคยกัน ทำให้หลายๆ คนตั้งคำถามว่า ‘นี่มันอนาคตแบบไหนกันนะ’

คำตอบก็คือ ในซีรีส์ตอนนี้ มีการเลือกใช้องค์ประกอบศิลป์ (Art Direction) ในแบบ ‘Retro Futurism’ หรือเรียกว่า ‘ภาพโลกอนาคตแบบที่คนในอดีตจินตนาการไว้’ ทำให้มีการออกแบบฉาก เสื้อผ้า และพร็อพต่างๆ ให้ออกมาดูย้อนยุคนั่นเอง

ซึ่งศิลปะแบบ Retro Futurism ก็ถือเป็นแนวทางคลาสสิคที่มีการนำมาใช้กันอยู่หลายครั้งในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น ในซีรีส์ Loki นั้นจะเป็นแนว Retro Futurism ยุค 1950s ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสไตล์ Brutalist นั่นเอง

และสำหรับใน ‘Paradistopia – เทคโนโยนี’ นี้ก็เป็นอีกแนวทางที่ไม่เหมือนใคร เพราะมีการผสมผสานความ Retro แบบไทยๆ ไปจนถึงศิลปะตะวันตกยุคเก่า เข้ากับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ซึ่งไม่ว่าภาพของซีรีส์จะออกมาในธีมไหน แก่นสำคัญก็คือเรื่องราวประเด็นทางสังคมเกี่ยวกับ ‘การค้าประเวณี’ ที่หวังว่าคนดูจะมาตั้งคำถามด้วยกัน

วันนี้ Art of จะมาพูดคุยกันต่อเล็กน้อยกับทีมผู้สร้างซีรีส์ นั่นก็คือ ผู้กำกับ คุณกอล์ฟ—ปวีณ ภูริจิตปัญญา และ ผู้อำนวยการสร้าง คุณหนุ่ม—สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์ เกี่ยวกับเบื้องหลังการสร้างโลกของ Gamalore

ทำไมถึงเลือกทิศทาง Art Direction ไปทางย้อนยุคแบบ Retro Futuristic ?

คุณกอล์ฟ: ในตอนแรก เราตั้งใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคมรอบตัว แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้ไม่สามารถใช้ชื่อเมืองที่มีอยู่จริงได้ ชื่อเมือง ‘Gamalore’ จึงเกิดขึ้นมา และกลายเป็นการเล่าเรื่องผ่านโลกอีกแบบหนึ่งไปเลย พวกเราจึงเริ่มต้นคิดไดเร็คชั่น Retro Futuristic ได้จากตรงนี้ เสียดสีให้มันล้าหลังสุดๆ ไปเลย

จากนั้นก็ค้นคว้าย้อนกลับไปช่วงยุค 60s -70s รวมถึงเรื่องนิยายวิทยาศาสตร์ต่างๆ ที่มีความ Retro Futuristic เต็มไปหมด ยิ่งหาก็ยิ่งพบว่ามีอะไรน่าสนใจ เป็นตอนที่สนุกมากๆ กับการสร้างโลกนี้ขึ้นมา

คุณหนุ่ม: ด้วยความที่เราอ้างอิงจากสังคมในยุค 60s -70s ก็จะมีเรื่อง ‘GI ขึ้นเมือง’ ที่ทหารอเมริกันยกทัพเข้ามาในไทยด้วย ทำให้มีความเป็นอเมริกันเข้ามาผสมผสานกับความเป็นไทย ทั้งทรงผม การแต่งตัว และเพลงทั้งหมดก็จะอ้างอิงมาจากยุคนั้น แต่อยากเสริมว่าถึงธีมจะเป็น Retro Futuristic แต่เรื่องราวทุกๆ อย่างข้างในก็ยังเหมือนเดิม เป็นเรื่องจริงในสังคมที่ไม่ได้แต่งขึ้นมาใหม่นะ

ในเรื่องมีประเด็นเรื่องศาสนาที่ตัวละครนับถือด้วย และมีสัญญะตลอดทั้งเรื่อง

คุณหนุ่ม: เราผสมผสานธีมหลักทั้งหมดเข้ากับความเชื่อทางศาสนาของตัวเจสสิก้า ด้วยความที่เจสเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวที่สู้ชีวิต เลยต้องการอะไรที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งเจสก็มีการมองว่าตัวเองเป็น Demigod (คนครึ่งเทพ) ประมาณหนึ่ง

จากการที่สร้างหุ่นยนต์ Sex robot ขึ้นมา เขามองว่าหุ่นพวกนั้นเป็นเหมือนลูก จึงแทนค่าว่าตัวเองเป็นหลายอย่าง เช่น แม่ชีเทเรซ่า, Joan of Arc และพระแม่มารี จะเห็นได้จากภาพวาด และรูปปั้นต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วมีสัญญะซ่อนอยู่ในเรื่องอีกเยอะมาก

ถ้าสังเกตในฉากที่มีเหล่าหุ่นเดินมาหาเจส จะเห็นในแววตาเลยว่าเหมือนเจสกำลังมองไปที่ลูกของตัวเองที่คิดว่าเดินมาให้กำลังใจ

หลายคนที่อาจไม่ได้เข้าใจวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้อยู่เหมือนกัน

คุณกอล์ฟ: เราตั้งใจทำเรื่องนี้ให้ไปสุดทางไปเลยแบบไม่ประนีประนอม เราอยากสื่อสารไปให้ถึงจริงๆ คนที่อินก็จะอินสุดหัวใจไปเลย แต่มีหลายคนมากที่ไม่เข้าใจ ซึ่งส่วนนึงก็อาจจะเป็นที่เราเองที่เลือกทางที่สื่อสารยากหน่อย แต่อีกแง่ก็อยากทำให้สุดทางและดีที่สุดไปเลย

เราเป็นพ่อครัวที่จัดจานเสิร์ฟ บางคนก็อาจจะไม่ชอบรสชาตินี้ มองว่ามันจัดจ้านเกินไป กินยากเกินไปก็ได้ ถ้าเกิดไม่ชอบแนวทางของเรื่องนี้ ก็เชื่อว่าจะต้องมีตอนอื่นๆ ในซีรีส์ ‘อนาฅต’ ที่เขาชอบแน่นอน