887Views
นิทรรศการ ‘Nel Tuo Tempo’ จาก Olafur Eliasson ปรมจารย์แห่งการใช้แสง
Installation art หรือศิลปะการจัดวาง เป็นแขนงศิลปะที่เล่นกับการใช้ ‘ที่ว่าง (Space)’ ซึ่งหากศิลปินสามารถออกแบบได้อย่างลงตัวแล้ว จะไม่ได้เพียงแต่จุดประกายความรู้สึกของผู้ชมเท่านั้น แต่ยังช่วยบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ได้อีกด้วย
Olafur Eliasson เป็นศิลปินที่โด่งดังในการสร้างงาน Installation art โดยเขามักจะผสมผสานศิลปะเข้ากับวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะการใช้ ‘แสง’ จนเรียกได้ว่าเขาเป็นปรมาจารย์ด้านนี้เลยทีเดียว ซึ่งกว่าจะเสร็จออกมาเป็นผลงานศิลปะแต่ละชิ้นนั้น ต้องผ่านการค้นคว้าและทดลองมากมาย จึงทำให้ผลงานของเขาส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ชมได้อย่างเข้มข้นมาก
โดยนิทรรศการที่เราพาไปชมในวันนี้ชื่อว่า ’Nel Tuo Tempo’ หรือแปลว่า ‘ในช่วงเวลาของคุณ’ จัดอยู่ที่ Palazzo Strozzi อาคารเก่าแก่อายุกว่า 500 ปีในเมือง ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี จัดแสดงวันที่ 22 กันยายน 2022 – 22 มกราคม 2023
ซึ่งประกอบไปด้วยผลงานโด่งดังดั้งเดิมของ Olafur รวมถึงผลงานที่สร้างมาเพื่ออาคาร Palazzo Strozzi โดยเฉพาะ ซึ่งบอกได้เลยว่ายอดเยี่ยมทุกงาน
ในแวบแรกที่เดินผ่านโดยที่ยังไม่ได้ตั้งใจดูให้ดี ก็คิดในใจไปแล้วว่า ‘นี่ศิลปินฉายโปรเจคเตอร์งั้นหรอ’ พอเข้าใจงาน ก็รู้สึกขอโทษในใจล้านหนที่สบประมาทศิลปินไปแล้วอย่างร้ายแรง
ผลงานชิ้นนี้เล่นกับสถาปัตยกรรมโดยตรง โดยสะท้อนถึงรายละเอียดของหน้าต่างบานสูงและกระจกแต่ละชิ้น เพราะภาพที่เห็นนี้เกิดจากการส่องแสงผ่านหน้าต่างจากด้านนอก! เมื่อมีคนเดินตัดผ่านแสงก็จะเกิดเป็นเงาคน
โดยงานเซ็ตนี้ ฉายภาพของหน้าต่างหลายบานจากหลายมุมของอาคาร ซึ่งให้ความรู้สึกที่พิเศษมาก เพราะแสงช่วยขับรายละเอียดของกระจกแต่ละชิ้นเหมือนกับมันเป็นภาพวาดชิ้นหนึ่ง กระจกที่ถูกติดตั้งเมื่อกว่า 500 ปีที่แล้ว
Solar compession (2016)
เป็นงานแรกในนิทรรศการนี้ที่เห็นการใช้แสงสีเหลืองสุดไอคอนิคของ Olafur กระจกกลมเรียบๆ ที่ซ่อนรายละเอียด และยังช่วยขับฝ้าเพดานอีกด้วย
Beauty (1993) ผลงานนี้เป็นผลงานเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1993 ที่ถูกนำไปจัดแสดงมาแล้วหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลย ส่วนตัวเป็นงานที่ประทับใจที่สุดในนิทรรศการเลย
มองแวบแรกมันเหมือนกึ่งๆ กลุ่มควัน กึ่งๆ วิญญาณที่ลอยละล่อง เมื่อมองดีๆ จึงเห็นว่ามันเป็นละอองน้ำที่มีแสงสายรุ้งเป็นประกายฉาบอยู่ ภาพที่เห็นดูเหนือจริงมากๆ เหมือนเวทมนตร์
.ถึงองค์ประกอบจะดูเรียบง่ายที่มีแค่ น้ำและแสงไฟ แต่ต้องผ่านการคิดคำนวณมาอย่างดี
ด้วยแนวความคิดที่อยากให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมกับผลงาน เมื่อมองแต่ละมุมจะเห็นสายรุ้งไม่เหมือนกัน เหมือนกับที่คนเราทุกคนล้วนมีมุมมองเกี่ยวกับความงามไม่เหมือนกันนอกจากภาพแล้ว เสียงและสัมผัสของละอองน้ำก็ทำให้จิตใจสงบและฟูมากๆ
Firefly double-polyhedron sphere experiment (2020)
ผลงานนี้ใช้เวลาในการทดลองหลายสิบปี! โดยมีรูปทรงหลายเหลี่ยมอยู่ด้านในอีกรูปทรงอีกทีหนึ่ง ที่ประกอบขึ้นมาจากแก้วหลากสี มีแหล่งกำเนิดแสงเล็กๆ ด้านใน เมื่อหมุนไปตามแรง สีสันเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนไปตามจังหวะของแก้วที่มาซ้อนกัน เติมห้องทั้งห้องด้วยเงาและแสงที่เปล่งประกายเหมือนกับหิ่งห้อย
Room for one colour (1997)
ห้องที่ถูกฉาบด้วยสีเหลืองนี้ เป็นอีกหนึ่งงานเป็นเอกลักษณ์ของ Olafur เมื่อเดินเข้าไปสายตาก็จะถูกปรับให้เห็นแต่เพียงสีเหลืองและดำเท่านั้น เมื่อเดินออกจากห้องก็จะมีช่วงหนึ่งที่เห็นอะไรๆ เป็นสีฟ้า นอกจากนี้หลอดไฟเหล่านี้ยังถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อผลงานนี้โดยเฉพาะอีกด้วย
Eye see you (2006)
ดวงตาที่เหมือนกับพระอาทิตย์ ลึกลับและน่ามหัศจรรย์มาก
Under the weather
เป็นผลงานที่ตั้งอยู่ในคอร์ทของอาคาร ที่ถึงแม้ไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าชม ก็เดินมาดูได้ แพทเทิร์นจะเหมือนกับขยับได้ตามมุมมองและการเคลื่อนไหวของผู้ชม ถือเป็นงานไฮไลต์ที่น่าจะเชิญให้คนซื้อบัตรเข้าไปชมได้สบายๆ
Olafur Eliasson นั้นผสานพลังของศิลปะและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการสั่งสมฝีมือ งานของเขาเป็นตัวอย่างของงานศิลปะที่สื่อสารเรื่องราวถึงผู้ชมด้วยวิธีที่ลึกซึ้งและทรงพลังที่เชิญชวนให้ทุกคนได้สัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง