พาส่อง EARTH MART พาวิลเลียนลับหนึ่งใน Signature Pavilion ที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นในทุกรายละเอียด
“ทานแล้วนะค้า!!” หากใครเคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นมาก่อนคงจะคุ้นเคยกับคำพูดนี้ ในอนิเมะหรือซีรีส์หลายๆ เรื่องมักจะให้ความสำคัญกับฉากทำอาหารแม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อเรื่องโดยตรง นี่สื่อให้เห็นว่าในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ‘อาหาร’ ไม่ใช่แค่เพียงของที่เรารับประทาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของ ‘วิถีชีวิต’
ด้วยรูปลักษณ์ของพาวิลเลียนที่เป็นอาคารมุงหญ้าที่ดูอบอุ่นและต้องจองก่อนเข้าชมเท่านั้น พาวิลเลียนแห่งนี้จึงจัดเป็นอีกหนึ่งพาวิลเลียนลับที่ยังไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่เมื่อเราได้มีโอกาสเข้าไป ก็อดจะประทับใจไม่ได้ โพสต์นี้จะพาไปชม รายละเอียดการออกแบบที่ทำให้พาวิลเลียนเรื่องอาหาร ไม่ใช่แค่การเดินชิมอย่างเดียวอีกต่อไป
พาวิลเลียนอาหาร ที่ไม่ได้ให้ชิมอาหาร
EARTH MART เป็นหนึ่งใน Signature Pavilion ของประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นส่วนหนึ่งของ EXPO 2025 งานมหกรรมแสดงวัฒนธรรมและเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยพาวิลเลียนนี้นำเสนอเรื่อง ‘อาหารการกินของผู้คนทั่วโลก’ นั่นเอง
จะเป็นยังไงถ้า ‘การกิน’ ของคนทั่วโลกถูกเอามาบอกเล่า ผ่านสถิติที่เข้าใจง่ายและชวนให้คิดถึงความยั่งยืนทางอาหารของประชากรทั้งโลก
สถิติเป็นเรื่องน่าปวดหัว แต่ในที่แห่งนี้ก็ได้ย่อยข้อมูลยากๆ ให้ง่ายเหมือนกลายเป็นอาหารพอดีคำ ผ่านการออกแบบนิทรรศการและวิธีการเล่า แม้จะไม่ได้มีการชิมอาหารในงาน แต่ผู้ชมกลับรู้สึก ‘อิ่ม’ ด้วยความคิดและความรู้สึกแทน
Marketplace of Life
ภายในโซนแรกมาในบรรยากาศของ ‘ตลาด’ พร้อมกับของคุ้นเคยที่เราซื้อกลับบ้านกันอยู่ทุกวัน พร้อมตาชั่งและแผงไข่ แต่ความน่าสนใจอยู่ที่การเล่าเรื่อง
ยกตัวอย่างเช่น แชนเดอเลียไข่
ตรงนี้ใช้ความยิ่งใหญ่อลังการ เพื่อสื่อสารถึงปริมาณที่มนุษย์บริโภค เช่น คนญี่ปุ่นกินไข่เฉลี่ย 28,000 ฟองในชีวิต


ตาชั่งยักษ์กับตะกร้าซุปเปอร์ อาจดูธรรมดา แต่เมื่อเราลองเอาสินค้าในตะกร้ามาชั่งดู ก็จะพบข้อมูลสถิติที่น่าสนใจ เช่น
จำนวนประเทศที่มีน้ำประปาดื่มได้ มีเพียงแค่ 50 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น
แล้วรู้หรือไม่ว่า ลูกวัวจะกินนมจากแม่เพียง 360 ลิตรเท่านั้น แต่คนดื่มต่อเนื่องทั้งชีวิต เฉลี่ยแล้วกว่า 2,600 ลิตร (*ค่าเฉลี่ยการบริโภคของชาวญี่ปุ่น) มากกว่าลูกวัวแท้ๆ กว่า 7 เท่า
รวมไปถึงโอกาสที่ดอกโกโก้จะติดเป็นฝักโกโก้ได้นั้น มีเพียง 1 ใน 100,000 เท่านั้น กว่าจะได้ช็อคโกแลตแต่ละแผ่นนั้นไม่ง่ายเลย


ที่แผงขายเนื้อ กลับมีเนื้อวางอยู่เพียง 1 แพ็คเท่านั้น
ด้านหลังเป็นภาพของสัตว์ตัวนั้นในทุกๆ ช่วงของชีวิต ตั้งแต่เกิด จนกลายมาเป็นอาหารของมนุษย์ หากก้มลงอ่านที่แพ็คจะพบชื่อของสัตว์ตัวนั้นๆ ด้วย
จุดนี้ทำให้เราตระหนักเห็นคุณค่าของอาหาร และใส่ใจความยั่งยืนมากขึ้น ถือว่ามีความสะเทือนอารมณ์มากทีเดียวสำหรับการจัดแสดง ที่ใช้เนื้อสดแค่หนึ่งแพ็ค
เช่นเดียวปลาทะเล ที่อาจสามารถวางไข่ได้ถึง 100,000 ฟอง แต่เหลือรอดจนเติบโตมาเป็นตัวเต็มวัยได้เพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น
เคยสงสัยกันไหม ว่าคนแต่ละประเทศซื้ออาหารอะไรเข้าบ้านบ้าง?
ใบเสร็จเหล่านี้จำลองให้เราเห็นอาหารการกินของคนแต่ละพื้นที่ของโลก บางประเทศยาวมากทีเดียว ที่น่าสนใจคือในประเทศที่กำลังพัฒนามีรายการที่สั้น เพราะคนในประเทศนิยมปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ในครัวเรือน ทำให้มีอาหารที่สดใหม่กว่าคนในเมืองเสียอีก


แนวคิดที่สะท้อนลงไปถึงการออกแบบสถาปัตยกรรม
พาวิลเลียนหลังนี้ถูกออกแบบโดย Kengo Kuma สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น ร่วมกับ Kundo Koyama แม้ไม่หวือหวาเหมือนพาวิลเลียนอื่นๆ แต่อาคารหลังนี้เต็มไปด้วยรายละเอียดที่แสนจะใส่ใจ พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ และยังรวมไปถึงการนำไปใช้ต่อหลังจบงาน
ที่มาของวัสดุส่วนใหญ่ถูกคัดมาจากแหล่งต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น แม้กระทั่งแผ่นปูพื้นเล็กๆ ที่ดูเหมือนกระเบื้องหินธรรมชาติ แท้จริงแล้วทำมาจากเศษพลาสติกและไม้มาทำวัสดุก่อสร้าง
‘revia’ วัสดุปูพื้นจากเศษไม้และพลาสติกรีไซเคิล
เมื่อสังเกตที่พื้นผิวจะเห็นเป็นลักษณะลายจุดๆ เป็นประกาย เพราะ revia เป็นวัสดุที่เกิดจากการนำเศษพลาสติกทั้งจากครัวเรือน เชิงพาณิชย์ และจากขยะทะเลมาบด ผสมกับเศษไม้ที่ได้จากการรื้อถอนอาคารแล้วขึ้นรูป
ถือเป็นการยกระดับทรัพยากรใช้แล้ว (Upcycling) มาเป็นของที่ใช้ได้ใหม่ได้อย่างยั่งยืน ทำให้ revia สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 82% เมื่อเทียบกับวัสดุพื้นแบบดั้งเดิม
นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดย กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่ง เทคโนโลยี (LIXIL Housing Technology,LHT) บริษัท ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำผลิตภัณฑ์อาคารที่อยู่อาศัยของญี่ปุ่น ซึ่ง TOSTEM Thailand แบรนด์ในเครือ LIXIL(リクシル) ก็เคยนำเข้ามาโชว์ในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วนี้เอง


ผนังดินอัดจากธรรมชาติ
ผนังสีเทาขรุขระนี้ เป็นส่วนหนึ่งของงานออกแบบโดย Kengo Kuma โดยทำมาจากดินอัดผสมไม้ไผ่และไม้พื้นเมือง ให้ความรู้สึก อบอุ่น อ่อนโยน เหมือนได้รับการโอบกอดจากธรรมชาติ โดย Kengo Kuma เลือกที่จะใช้วัสดุจากธรรมชาติเท่านั้น หลีกเลี่ยงวัสดุจากอุตสาหกรรม เช่น กระจก คอนกรีต และเหล็กที่ย่อยสลายได้ยาก
หลังคามุงหญ้าสไตล์ญี่ปุ่น
EARTH MART ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้าย “กระท่อมมุงหญ้า” (thatched hut) ที่เรียบง่ายและอบอุ่น ให้ความรู้สึกย้อนกลับสู่รากเหง้าวิถีพื้นบ้านของญี่ปุ่น ดึงให้ผู้เข้าชมได้กลับมารู้สึกถึงคุณค่าของชีวิตและธรรมชาติอีกครั้ง
การมุงฟาง จาก หญ้า เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาการก่อสร้างในหลายวัฒนธรรมของโลก เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นก็มีเทคนิคการมุงจากเช่นกัน ผสานกับเทคโนโลยียุคปัจจุบัน หญ้าแต่ละกอถูกคัดมาจากแหล่งหญ้าชั้นดีของญี่ปุ่น ได้แก่ อาโซะ จังหวัดคุมาโมโตะ, โกเทนบะ จังหวัดชิซึโอกะ, โยโดกาวะ โอซาก้า, มุรายะมะ จังหวัดชิกะ, และ ฮิรุเซน จังหวัดโอคายามะ
ขั้นแรกเริ่มจากการเก็บเกี่ยวหญ้า ตากแห้ง แล้วมัดเป็นกอ ก่อนจะทำการขนย้ายมาติดตั้ง โดยมัดทั้งกอติดกับหลังคา วิธีนี้ทำให้ขนส่งง่าย ไม่มีเศษเหลือ
โครงเหล็กทำมุม 45 องศา ประกอบกับคุณสมบัติของผิวหญ้าที่น้ำไม่เกาะทำให้สามารถกันน้ำฝนได้ดี เมื่อจบงานก็สามารถถอดกอหญ้าออกมานำไปใช้ต่อได้เลย




แม้จะเป็นนิทรรศการที่พูดถึงเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันอย่างการกิน แถมยังมีเรื่องยากๆ อย่างสถิติ แต่ความฉลาดของการเล่าเรื่องและนำเสนอ ภายใต้อาคารหลังคามุงหญ้าที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่คุณอ่านแล้วต้องคิดว่ามัน ญี่ปุ๊น…ญี่ปุ่น






_____
EARTH MART, EXPO 2025
– Yumeshima Island, Osaka, Japan
– 13 April – 13 October 2025
#Artof#Advertorial#TOSTEM#TOSTEMThailand#ARTofPlace#WorldExpo2025#osakaworldexpo2025#EXPO2025
