Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

สถาปัตยกรรม 7 แห่งทั่วโลก ที่สร้างขึ้นจาก “ความรัก” นิรันดร์

สถาปัตยกรรมหลายแห่งมักถูกสร้างเพื่อแสดงถึงอำนาจ นวัตกรรม และวัฒนธรรม ตั้งแต่พระราชวังและโบสถ์อันยิ่งใหญ่ ไปจนถึงตึกที่สูงตระหง่านค้ำฟ้า สถาปัตยกรรมเหล่านี้ได้ทิ้งร่องรอยประวัติศาสตร์ที่สำคัญเอาไว้บนโลก

แต่สำหรับสถาปัตยกรรมบางแห่ง ก็อาจเกิดจากเหตุผลที่เรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่อย่าง “ความรัก” โครงสร้างเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ลึกซึ้ง ความมุ่งมั่น และความปรารถนาของมนุษย์ที่จะทำให้ความรักเป็นอมตะผ่านสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง

เนื่องในโอกาสเดือนแห่งความรัก Art of จะพาไปดูสถาปัตยกรรมต่างๆ ทั่วโลก ที่เป็นตัวแทนแห่งความรักและความโรแมนติกกัน


ปราสาทตอร์เรคิอารา ประเทศอิตาลี  (Torrechiara Castle, Italy)

ถ้าเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักแล้ว คงจะไม่สนุกถ้าไม่มีดราม่าใช่ไหมล่ะ? ปราสาทตอร์เรคิอารา ในแคว้นปาร์มา ประเทศอิตาลี ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่หลบซ่อนของความรักต้องห้าม โดยปิแอร์ มาเรีย รอสซี (Pier Maria Rossi) ขุนนางชาวอิตาลี ที่ได้ตกหลุมรักกับ บิอันกา เปลเลกรินี (Bianca Pellegrini) แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือทั้งคู่ต่างก็มีคู่สมรสอยู่แล้ว!

เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน รอสซีจึงวางแผนสร้างที่พักลับ โดยเขาได้เลือกรีโนเวทอาคารป้อมปราการที่มีอยู่เดิมให้เป็นปราสาท โดยที่คนทั่วไปนั้นคิดว่าการก่อสร้างนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างเป็นป้อมปราการทางทหารในการควบคุมหุบเขาเบื้องล่าง แต่แท้จริงแล้วมันถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักอาศัยลับสำหรับเขาและเปลเลกรินี

เมื่อมองจากภายนอก ปราสาทดูแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ภายใน นักท่องเที่ยวจะพบกับลานกว้างอันงดงาม และสามารถเห็นอักษรย่อชื่อของรอสซีและเปลเลกรินีที่โบสถ์ของปราสาท นอกจากนี้ ยังมีภาพเฟรสโกที่งดงามตกแต่งอยู่อีกด้วย ถึงแม้ว่าปราสาทนี้จะดูงดงามเพียงไร แต่สถาปัตยกรรมแห่งนี้ก็คือสัญลักษณ์แห่งรักต้องห้ามในยุคกลางนั่นเอง


ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย (Taj Mahal, India)

ทัชมาฮาลน่าจะเป็นตัวอย่างที่มีชื่อเสียงที่สุดของสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นจากความรัก มันเป็นอนุสรณ์แห่งความภักดี และความรักที่ยิ่งใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิชาห์ จาฮาน เพื่อเก็บความทรงจำของพระมเหสีที่รัก มุมทาซ มาฮาล ซึ่งเสียชีวิตระหว่างการคลอดบุตรในปี 1631 

ชาห์ จาฮานโศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของเธอ จึงได้สั่งให้สร้างสุสานอันวิจิตรตระการตาเพื่อเป็นที่พักพิงร่างของเธอ และในเวลาต่อมา ก็จะเป็นที่พำนักสุดท้ายของพระองค์ด้วย สุสานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำยมุนา หันหน้าไปยังพระราชวังของชาห์ จาฮาน บ่งบอกว่าเขาทั้งสองคนนั้นจะเป็นคู่กันตลอดไป 

อนุสรณ์สถานหินอ่อนขาวอันยิ่งใหญ่แห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ลึกซึ้งของจักรพรรดิชาห์ จาฮานที่มีต่อภรรยาของเขา โดยมีการออกแบบที่ละเอียดอ่อน สวนขนาดใหญ่ และบรรยากาศสงบเงียบที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยามูนา ความงดงามของทัชมาฮาลนั้นมีความสมบูรณ์ทางสถาปัตยธรรมสูงมากจนทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รองรับแขกผู้มาเยือนหลายล้านคนต่อปี


ปราสาทรังนก ประเทศยูเครน (Swallow’s Nest, Ukraine)

ปราสาทรังนกเป็นสถาปัตยกรรมที่เห็นแล้วสะดุดตาทันที และอดรู้สึกทึ่งกับทำเลที่ตั้งที่ดูแล้วน่าหวาดเสียวไม่ได้ ปราสาทรังนกนั้นตั้งอยู่บนหน้าผาออโรรา (Aurora Cliff) สูงถึง 130 ฟุต เหนือทะเลดำ โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1912 โดยขุนนางชาวเยอรมัน และถึงแม้ว่ามีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับปราสาทในไครเมียแห่งนี้ แต่ผู้คนที่พบเห็นนั้นล้วนแต่โดนดึงดูดด้วยมนขลังบางอย่าง

ตำนานท้องถิ่นเล่าว่า เมื่อ 130 ปีที่แล้ว นายพลผู้บาดเจ็บนายหนึ่งเดินทางมายังไครเมียเพื่อรับการรักษา จักรวรรดิได้มอบที่ดินผืนหนึ่งริมทะเลให้แก่เขาบนโขดหินสูงแห่งแหลมไอ-โทดอร์ (Ai-Todor Cape) เป็นรางวัลตอบแทนความกล้าหาญ นักรบผู้นี้ได้สร้างบ้านไม้หลังเล็กขึ้น เพราะเขาแสวงหาความสันโดษ ความโรแมนติก และความสงบ โดยที่เขามีเพียงท้องฟ้าสีครามและทะเลดำเป็นเพื่อน เขาตั้งชื่อบ้านอันเรียบง่ายของเขาว่า “ปราสาทแห่งความรัก” (The Castle of Love)

แต่ประวัติศาสตร์ไม่ได้บอกไว้ว่า ความรักที่กล่าวถึงนั้นเป็นความรักต่อสตรีผู้เป็นที่รัก ความรักต่อตัวเอง หรือเป็นความรักต่อความงามอันน่าทึ่งของไครเมียกันแน่

แม้ว่าปราสาทแห่งนี้จะตั้งอยู่บนหน้าผาอันสูงชันและดูเหมือนเสี่ยงต่อการพังทลาย แต่มันสามารถต้านทานสภาพอากาศที่รุนแรง รวมถึงแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1927 ได้ ปัจจุบัน ปราสาทรังนกเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่โดดเด่นด้วยความสวย อบอุ่น และทำเลที่แปลกตากว่าที่ไหน


พระราชวังมิราเบล ประเทศออสเตรีย (Mirabell Palace, Austria)

สถาปัตยกรรมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1606 โดยเจ้าชายอัครสังฆราชวูล์ฟ ดีทริช ฟอน ไรเทเนา (Prince-Archbishop Wolf Dietrich von Raitenau) เพื่อคนรักของเขา ซาโลเม อัลท์ (Salome Alt) เมื่อเจ้าชายอัครสังฆราชถูกจับกุม ซาโลเมและครอบครัวของเธอถูกบังคับให้ออกจากพระราชวัง และสถานที่แห่งนี้ได้รับชื่อใหม่ว่า ‘มิราเบล’

สวนที่มีชื่อเสียงแห่งพระราชวังมิราเบลได้รับการขยายเพิ่มเติมตั้งแต่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 17 โดยมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในช่วงปี 1730 มีรูปปั้นที่น่าสนใจซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุทั้งสี่งตั้งอยู่ตั้งแต่ช่วงปี 1600 และน้ำพุเพกาซัสอันโด่งดังถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง ในปี 1965 สวนแห่งนี้ยังกลายเป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music อีกด้วย

พระราชวังมิราเบลในเมืองซาลซ์บูร์กเป็นตัวอย่างที่งดงามของสถาปัตยกรรมแบบบาโรก พระราชวังและสวนโดยรอบได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในยุโรป แม้ว่าความรักของทั้งคู่จะไม่ได้ลงเอยอย่างสวยงาม แต่พระราชวังแห่งนี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์อันน่าทึ่งของความรักที่ผู้สร้างต้องการทิ้งร่องรอยเอาไว้ได้เป็นอย่างดี


พระตำหนักน้อย ประเทศฝรั่งเศส (Petit Trianon, France)

พระตำหนักน้อยถูกสร้างขึ้นภายในบริเวณพระราชวังแวร์ซายส์ สถาปัตยกรรมแห่งนี้เป็นแบบจำลองขนาดเล็กของพระตำหนักใหญ่ (Grand Trianon) หนึ่งในพระราชวังสไตล์บาโรกที่งดงามและมีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ทรงสร้างอาคารนี้ระหว่างปี ค.ศ. 1762 ถึง 1768 เพื่อเป็นของขวัญแก่พระสนมเอกและคนรักของพระองค์ มาดาม เดอ ปงปาดูร์ (Madame de Pompadour) แต่เธอกลับไม่มีโอกาสได้อยู่อาศัย เนื่องจากพระราชวังสร้างเสร็จหลังจากการเสียชีวิตของเธอไปแล้วถีง 4 ปี

7 ปีต่อมา พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ผู้ได้สืบทอดบัลลังก์ และได้พระราชทานพระตำหนักน้อยนี้แก่พระมเหสี มารี อ็องตัวแน็ตต์ (Marie Antoinette) ซึ่งทรงใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ และไม่อนุญาตให้ข้าราชบริพารหรือผู้ใดเข้าไปภายใน ต่อมา พระตำหนักน้อยจึงมีชื่อเล่นว่าเป็นตำหนักของมารี อ็อง ตัวแน็ตต์ นั่นเอง


ปราสาทเคลลี ประเทศมาเลเซีย (Kellie’s Castle, Malaysia)

ผู้คนล้วนแต่ประหลาดใจเมื่อพบว่ามีปราสาทสไตล์สก็อตแลนด์ในเขตพื้นที่ร้อนชื้นของประเทศมาเลเซีย โดยปราสาทนี้ตั้งอยู่ในเขตบาตูกาจาห์ (Batu Gajah) สถาปัตยกรรมแห่งนี้คือสิ่งที่ วิลเลียม เคลลี สมิธ ( William Kellie Smith) เจ้าของสวนจากสกอตแลนด์อุทิศสร้างขึ้นเพื่อภรรยาของเขา แอกเนส (Agnes)

สมิธก่อร่างสร้างตัวในมาเลเซียและต้องการนำบรรยากาศของบ้านเกิดมายังอีกดินแดนเพื่อภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์และคิดถึงบ้านเกิดที่สก็อตแลนด์ สมิธจึงตัดสินใจสร้างปราสาทบนเนินเขาในสไตล์สก็อต, มัวร์ และอินเดีย

แต่โศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นในปี 1926 เมื่อสมิธเสียชีวิตกะทันหันจากโรคปอดบวมที่ลิสบอน ทำให้แผนการก่อสร้างต้องหยุดลง ส่งผลให้ปราสาทเคลลี (Kellie’s Castle ) ถูกทิ้งร้าง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและบางครั้งยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย


วัดโคไดจิ ประเทศญี่ปุ่น (Kodaji Temple, Japan)

สถาปัตยกรรมแห่งนี้อาจแปลกจากสถาปัตยกรรมแห่งอื่น เพราะวัดแห่งนี้ เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ภรรยามีต่อสามีนั่นเอง ซึ่งวัดโคไดจิถือเป็นหนึ่งในวัดที่งดงามที่สุดในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1606 โดยภรรยาของโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) นามว่า เนเนะ (Nene) เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สามีของเธอ ผู้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นในยุคเซ็นโกกุ โดยเธอเองก็ได้รับการสถาปนาให้เป็นเทพเจ้าประจำวัดเช่นกัน

อาคารหลักของวัดถูกสร้างขึ้นในสไตล์หรูหราของยุคที่ญี่ปุ่นกำลังรวมกำลังเป็นปึกแผ่น ตกแต่งภายในด้วยภาพวาดลงเคลือบและปิดทองอย่างวิจิตรงดงาม โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากโชกุน โตกุงาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ผู้สืบทอดอำนาจต่อจากฮิเดโยชิ น่าเสียดายที่ตัววัดได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้หลายครั้ง สุดท้ายแล้วถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1912 โดยลดระดับความหรูหราลง

สวนเซ็นที่งดงามของวัดนี้เชื่อกันว่าได้รับการออกแบบโดยโคโบริ เอ็นชู (Kobori Enshu) ปรมาจารย์ด้านภูมิสถาปัตยกรรม และได้รับการขึ้นทะเบียนจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์และแหล่งทัศนียภาพที่งดงามกระการตา


บทความโดย Tuatan Chote
source: Beck Technology | hbp | Tatler Asia

© 2021 Art of. All rights reserved.

  083-138-5607
contact@artofth.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save