พามาดูทุกแง่มุมการดีไซน์ของงานมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2025 ที่งาน EXPO2025 ที่ OSAKA

World Expo เป็นงานมหกรรมการแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีตัวแทนจากทั่วโลกเข้าร่วม ปัจจุบันจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี โดยเจ้าภาพจะวนไปตามประเทศต่างๆ และในปี 2025 นี้ก็มาถึงคิวของ Osaka เมืองยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบแห่งประเทศญี่ปุ่น

หลายคนอาจสงสัยว่าจะให้ไปดูอะไร ?

World Expo ถือเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อให้ประเทศสมาชิกได้มาแสดงศักยภาพด้านต่างๆ แต่ละประเทศจะดีไซน์พาวิลเลี่ยนของประเทศตัวเองอย่างจัดเต็มเพื่อนำเสนอนวัตกรรมและวัฒนธรรมของตน โดยประเทศสมาชิกมีมากถึง 160 ประเทศ และงานเปิดให้เข้าชมยาวนานถึง 6 เดือน

ด้วยความที่มีสมาชิกมาก ในการจัดงานเอ็กซ์โปร์จึงเหมือนการสร้างเมืองขนาดย่อมๆ ขึ้นมาเลยทีเดียว โดยครั้งนี้ EXPO2025 ที่โอซาก้าได้จัดบนเกาะทั้งเกาะในอ่าวโอซาก้า (เกาะที่ว่านี้เป็นเกาะที่ถมทะเลขึ้นมาด้วยนะ) ลองจินตนาการเมืองในหนังไซไฟสักเรื่องที่เต็มไปด้วยตึกรูปร่างประหลาด รถรางลอยฟ้า และแท็กซี่บินได้ดูสิ แค่คิดก็น่าตื่นเต้นแล้ว!

#โพสต์นี้จะมาเล่า
– แนวความคิดการออกแบบ
– มาสคอตและการใช้คาแรคเตอร์การ์ตูนมาสร้างสีสัน
– ผังงานโดยรวม
– วิธีการจองตั๋วและเดินทาง

___

แนวคิดที่มาจากเซลล์

หากคุณคิดว่าโลโก้และมาสคอตของงานนี้มันช่างดูประหลาดหยุกหยุยเหมือน ‘เซลล์’
คุณคิดถูกแล้ว

แนวคิดของงาน World Expo 2025 พูดถึงสิ่งมีชีวิตที่เติบโต เกี่ยวพัน และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งทั้งในแง่ของคนกับคน คนกับสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงคนกับเทคโนโลยี เปรียบเหมือนเซลล์เกิดมาจะมีการแบ่งตัว พัฒนา และฟอร์มกลุ่มพัฒนาเป็นสิ่งต่างๆ ต่อไป

ดังนั้นจากจุดเริ่มต้นจึงเริ่มจาก ‘individual’ หรือ ‘ID’ ที่เป็นก้อนกลมหนึ่งเดียว ก็ค่อยๆ แบ่งตัวเกิดเป็น ‘Group’ และเติบโตพัฒนาสัมพันธ์กลายเป็น ‘World’ โลกที่ทุกคนอยู่ร่วมกันนั่นเอง

สรุปง่ายๆ ว่างานคราวนี้ให้ความสำคัญกับมนุษย์และความสัมพันธ์กับธรรมชาติและโลกที่เราอาศัยอยู่ ดังนั้นแนวคิดนี้จะแทรกอยู่รายละเอียดของงานในแง่มุมต่างๆ

น้อง Myaku-Myaku มาสคอต ‘เซลล์’ สุดประหลาด

บอกแล้วใช่ไหมว่ามาสคอตปีนี้มันประหลาด ไม่ใช่แค่คนไทยคิด คนญี่ปุ่นก็คิดเหมือนกัน ตอนที่คาแรคเตอร์มาสคอตน้อง Myaku-Myaku สร้างความกระแสความงงงวยในหมู่คนญี่ปุ่นว่านี่มันคือตัวอะไรกันแน่ ส่งผลให้เกิดแฟนอาร์ตภาพล้อเลียนต่างๆ ตามมามากมาย

แท้จริงแล้ว Myaku-Myaku เกิดจากเซลล์และน้ำมาผสมรวมกัน เป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ระบุที่มาไม่ได้แต่คาดว่าจะเกิดมาจากบ่อน้ำสะอาดสักแห่งในคันไซ น้องสามารถกลายร่างเป็นอะไรก็ได้ แต่ตอนนี้กลายร่างเป็นมนุษย์อยู่ (เหมือนไหมเนี่ย!?)

ผู้ออกแบบ Tamotsu Shimada บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากงาน World Expo 1970 ที่จัดที่โอซาก้าเหมือนกัน ตอนนั้นแนวคิดของงานจะเกี่ยวกับ Futurist+Organism รูปร่างมันเลยออกมาคล้ายๆ เซลล์แบบเนี่ยเเหละ

ตอนนี้มีสินค้าลายน้องออกมาอีกหลายชิ้นติดตามดูกันได้ ดูไปดูมา เอ๊ะ! มันก็น่ารักดีนะ

ขึ้นชื่อว่าญี่ปุ่น กองทัพอนิเมะต้องมา !

เปลี่ยนเกาะ Expo ให้กลายเป็นสนามโปเกม่อนจริงๆ กับเกม Pokemon Go

ด้วยธีมที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ จะมีเกมไหนที่เหมาะไปกว่า Pokemon Go อีกละ ในพื้นที่จัดงานนอกจากจะสามารถมาเล่นเกมได้แล้ว ยังจะมีการเซ็ท PokeStops ของจริง ให้ผู้ร่วมงานได้เข้าไปตามหาได้ด้วย โดยโปเกม่อนจะถูกทำเป็น 3 มิติให้ผู้ร่วมงานถ่ายรูปผ่าน GO Snapshot ได้ด้วย

นอกจากนี้ยังจะมีคาแรคเตอร์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น เจ้าหนูอะตอมบนหลังคา Pasona Pavillion,Gundum ขนาดยักษ์ที่หน้า Next Future Pavillion,และอื่นๆ อีกมากมาย รอติดตามได้เลย

นอกจากคาแรคเตอร์จะมาเพื่อช่วยโปรโมตงานแล้ว คาแรคเตอร์ชื่อดังก็ยังถูกเอามาใช้ในการบอกเล่าเรื่องยากๆ เช่น Hello Kitty ที่จะมาพูดถึง ‘สาหร่าย’ ในระบบนิเวศน์

ในพาวิลเลี่ยนของญี่ปุ่นจะนำเสนอเรื่อง “Between Lives” ซึ่งนำเสนอเรื่องความเชื่อมโยงของสิ่งมีชีวิต การหมุนเวียน (Circulation) โดยในโซน “Farm Area” จะมี “สาหร่าย (Algae)” เป็นองค์ประกอบหลัก เพราะสาหร่ายเป็นวัตถุดิบสำคัญที่เข้ามาทดแทนวัตถุดิบในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น พลาสติก สิ่งทอ อาหาร ยา และพลังงาน

แต่เล่าตรงๆ ก็อาจจะยากไป ครั้งนี้จึงพาเอา Hello Kitty มาช่วยเล่าเรื่องนี้ให้คนทั่วไปเข้าถึงง่ายมากขึ้น โดยคิตตี้จะแต่งตัวเป็นสาหร่ายชนิดต่างๆ กว่า 32 ชนิด ให้ความรู้เกี่ยวกับสาหร่ายอย่างเข้าใจง่าย

แม้แต่แผนผังก็ยังน่ารัก !

มาดูแผนผังของงาน สิ่งที่จะเห็นชัดๆ ก็คืออาคารรูปวงแหวนขนาดใหญ่ พาวิลเลี่ยนจากนานาชาติ และ ลานกิจกรรม ที่น่ารักคือดีเทลของตัวละครเล็กๆ ในงาน ลองไปซูมดูสิว่ามีตัวอะไรซ่อนอยู่ในนั้นบ้าง

ขั้นตอนการซื้อตั๋ว

เนื่องจากงานนี้เป็นงานที่มีผู้ร่วมงานมากที่สุดงานหนึ่ง เพื่อช่วยในการออกแบบจัดการฝูงชนจึงต้องทำการซื้อตั๋วและจองเข้างานจึงมีหลายขั้นตอน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าชมบรรยากาศของงานได้ โดยจะสามารถสรุปได้คร่าวๆ 4 ข้อดังนี้

1. สมัคร Expo ID
ก่อนซื้อตั๋วต้องมาสมัคร Expo ID ที่นี่

2. ซื้อตั๋ว
ตั๋วเข้างานมีให้เลือกหลายแบบทั้งแบบ บุคคลธรรมดา เด็ก และผู้พิการ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและราคาแบบต่างๆ ได้บนเว็บไซต์

3. จองวันและเวลาเข้างาน
เมื่อได้ Expo ID และตั๋วเข้างานแล้วนำไปลงทะเบียนเพื่อจองวันและเวลาเข้าร่วมงานได้ สามารถทำการจองพร้อมกันเป็นกลุ่มได้ โดยคนจองต้องทำการจองชื่อคนอื่นๆ ในกลุ่มลงไป เพื่อจองเข้างานพร้อมกัน

4. สุ่มวันและเวลาเข้าพาวิลเลี่ยนที่เราต้องการ
หลายพาวิลเลี่ยนและกิจกรรมสามารถเข้าไปเข้าแถวได้โดยตรง แต่พาวิลเลียนหลักๆ จำเป็นต้องมีการจัดการจำนวนคนเข้า เมื่อจองวันเข้าได้แล้วเราสามารถเอาตั๋วของเราไปจองเข้าพาวิลเลียนต่างๆ ได้

เราสามารถเลือกพาวิลเลียนที่เราต้องการไป โดยจะได้รับสิทธิสุ่ม (คล้ายการจองคอนเสิร์ตในญี่ปุ่น) ว่าจะได้เข้าเวลาไหน รายละเอียดดูได้เพิ่มเติมบนเว็บไซต์

อ่านดูแล้วอาจจะรู้สึกซับซ้อน แต่หลักการคล้ายกับการจัดการใน Tokyo Disneyland ที่แบ่งให้คนเข้าแต่ละโซนและแต่ละช่วงเวลาไม่มากเกินไป รอคิวหน่อยก็สามารถเข้างานได้ (เพราะหากไม่มีการจัดการเลย อาจต้องรอพาวิลเลียนนานจนหมดวันพอดี)

การเดินทางไป EXPO 2025

EXPO 2025 จัดขึ้นบนเกาะในอ่าวโอซาก้า Yumeshima Island เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเดินทางไปด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งทางผู้จัดงานก็ได้ทำการออกแบบเส้นทางรองรับไว้หลากหลาย

Metro
ที่งานมี Yumeshima Station ที่จะพาเข้าสู่งานด้าน East Gate สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟสาย Osaka Metro Chuo Line

เดินทางจาก Shinkansen และ สนามบิน
ผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอื่นสามารถใช้ Metro เพื่อเดินทางมางานได้ แต่จำเป็นต้องเปลี่ยนสาย บางสถานีใหญ่เป็นจุดเปลี่ยนหลายสาย อาจมีคนเยอะได้ เผื่อเวลาเดินทางด้วยนะ

Shuttle Bus
มีรถบัสหลายสายที่เดินทางจากจุดต่างๆ ในเมืองโอซาก้าเพื่อเข้าสู่เกาะ Yumeshima ด้าน West Gate
Shin-Osaka
Osaka North
Osaka South
Nakanoshima
Sakurajima
Namba
Osaka-Uehommachi
Osaka-Abenobashi
Sakai/Sakaihibashi
จากสนามบิน
ทั้งหมดนี้ควรจองตั๋วไปก่อนนะ จะได้ที่แน่ๆ ถ้าไม่จองก็อาจจะไม่มีที่ได้

เรือ Ferry
ด้วยความที่เป็นเกาะ แน่นอนว่าสามารถเดินทางทางเรือได้ เผื่อใครอยากได้บรรยากาศ มีบริษัทเอกชนให้บริการเรือข้ามฟากหลายแห่ง โดยต้องไปขึ้นเรือที่ท่า Hanshin Port Ferry Terminal

จักรยาน
ใครอยากทดลองอะไรใหม่ๆ เกาะนี้มีสะพานเชื่อมสำหรับรถยนต์อยู่นะ จะขี่จักรยานเข้าไปก็ได้ ที่เกาะมีลานจอดรถและพื้นที่จอดจักรยานอยู่ (ใครขี่ไปมาเล่าให้ฟังบ้างสิ อยากรู้ว่าเป็นไง)

หมายเหตุ: ห้ามเอากระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่มาด้วย ถ้าเอามาต้องฝากไว้ที่ล็อคเกอร์ที่สถานี ซึ่งอาจจะเต็มได้ แนะนำให้เก็บกระเป๋าที่โรงแรมก่อน