Gotham ที่มืดมนกว่าที่เคย ความเปลี่ยนแปลงของ ‘เมือง’ ใน Batman

“Gotham made Batman.
จะบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่สะท้อนตัวตนของแบทแมนก็ไม่ผิด”

Gotham เป็นเมืองสมมติในเรื่อง Batman เป็นจุดกำเนิดของแบทแมนก็ว่าได้ เพราะการที่ บรูซ เวย์น ตัดสินใจมาออกมาปราบเหล่าร้าย ก็เพราะพ่อแม่ของเขาถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายในเมืองบ้านเกิดนี้นี่เอง ฉากเมืองก็อตแธมในแต่ละภาคก็จะแตกต่างกันออกไป ตามเหตุการณ์ช่วงนั้นที่ผู้กำกับเลือกจะสื่อออกมา โดยขอออกตัวก่อนว่าไม่เคยดูแบทแมนทุกภาค ที่ยังจำได้ก็คือ The Dark Knight และ ภาคล่าสุด The Batman ที่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

The Dark Knight Trilogy (2005–2012)

ภาค The Dark Knight Trilogy ของโนแลน ไปถ่ายทำกันหลายที่ เช่น Chicago และ Pittsburg เมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า หนังภาคนี้เกิดหลังเหตุการณ์ 9/11 ตึก World Trade ถล่ม ในหนังพูดถึงการก่อการร้ายและการจลาจล

ก็อตแธมของโนแลนเต็มไปด้วยตึกสูงทรงโมเดิร์น เส้นสายเป็นระเบียบชี้ขึ้นท้องฟ้า เน้นความสูงและความเจริญของเมือง แต่ในขณะเดียวกันซุกซ่อนความยุ่งเหยิงไว้ในตรอกซอกซอยและใต้ดินที่เสื่อมโทรม ก็อตแธมในเวอร์ชั่นนี้มีความใกล้เคียงกับบ้านเมืองในความเป็นจริงมาก ให้ความรู้สึกว่ามันอาจจะเกิดขึ้นจริงๆ ที่ไหนสักที่หนึ่งในโลกตอนนี้ก็ได้

The Batman (2022)

พอมาดู The Batman นี่ก็ฉีกไปอีกแบบหนึ่งเลย
The Batman ของ แมตต์ รีฟส์ เต็มไปด้วยความมืดหม่นและเสื่อมโทรม เป็นเมืองที่มีตึกสูงขึ้นแออัด และยังคงสร้างต่อไปราวกับไม่มีขอบเขตทำให้รู้ว่านี่เป็นเมืองใหญ่ที่เจริญแห่งหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันความไร้ระเบียบแบบแผนขององค์ประกอบต่างๆ ก็ทำให้รู้ว่ามีความบ้านป่าเมืองเถื่อนแทรกซึมอย่างลึกซึ้งในเมืองนี้

คฤหาสน์เวย์นเองก็มีความดาร์กมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เปรียบเทียบกับของโนแลนที่เป็นคฤหาสน์หรูนีโอคลาสสิคที่สว่างสไว บรูซ เวย์นในภาคนี้ราวกับอาศัยอยู่ในโบสถ์โกธิก(ผีสิง)ก็ว่าได้ รายละเอียดการตกแต่งเก่าแก่เหมือนมาจากยุคกลาง มืดหม่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้แก็ดเจ็ทต่างๆยังคงเป็นของเก่าแบบอนาล็อกอยู่มาก

แต่ไม่ว่าแต่ละภาคจะต่างกันอย่างไร สิ่งหนึ่งที่เป็นแกนหลักของเมืองที่ยังคงไว้ก็คืออาชญากรรมที่แทรกซึมอยู่ในเมืองใหญ่ ความมืดมนที่ผลักดันให้แบทแมนต้องเลือกใช้ศาลเตี้ยในการตัดสิน
น่าสนใจว่าภาคต่อๆ ไปของแบตแมนจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง