Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

เติมสีสันในมิติใหม่ไปกับ ‘VESPA EXPERIENCE POP-UP EXHIBITION’ ผสมผสานทุกไลฟ์สไตล์ จนกลายเป็น ICONIC

ในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย เราต่างสะท้อนตัวตน ความชอบของตัวเองผ่านทุกอย่างที่เราเลือกใช้ ภาพยนตร์ที่ดู เพลงที่ฟัง หรือแม้แต่รถสกู๊ตเตอร์ซักคันที่เราขับขี่ ก็ไม่ใช่แค่เพียงยานพาหนะ แต่เป็นเหมือนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ที่สื่อสารตัวตนของเราออกมา

สะท้อน ‘ไลฟ์สไตล์’ จนกลายเป็น ‘ICONIC’

หนึ่งในแบรนด์ที่นิยามคำว่า Lifestyle Brand ได้ชัดมากๆ ก็คือ ‘Vespa’ ที่อยู่คู่กับทุกเรื่องราวในชีวิตของผู้คนมาอย่างยาวนาน ทั้งความเชื่อในอิสรภาพ, ดนตรี, สถานที่, วิถีชีวิต, ศิลปะ และวัฒนธรรม จนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ไอคอนิคของยุคตามนิยาม Timeless Icon

ในประเทศไทย Vespa ก็เติมสีสันความสนุกมายาวนาน จนกลายเป็น Community ที่เหนียวแน่น (ซึ่งมีชื่อด้อมว่า Vespisti ด้วยนะ) มีกิจกรรมสนุกๆ ของคนรัก Vespa มากมาย เช่น เวสป้า คาราวาน ที่ขอแอบสปอยล์ก่อนเลยว่าในปีหน้า 2024 กลับมาจัดแน่นอน !!

เฉลิมฉลอง 12 ปี ! เติมสีสันความสนุกใน ‘VIVA LA VESPA’

ในปีนี้ถือเป็นโอกาสอันเหมาะสมกับการครบรอบ 12 ปีในไทย ก็เตรียมตัวจัดเต็มทั้งโมเดลใหม่ๆ , โปรเจกต์ และแคมเปญสนุกๆ ให้เราได้เดินทางกับเวสป้าไปตลอดทั้งปี ในแคมเปญ ‘VIVA LA VESPA’ 

โดยเริ่มที่นิทรรศการ ‘VESPA EXPERIENCE POP-UP EXHIBITION’ ที่มีพระเอกของงานคือ สกู๊ตเตอร์ 5 รุ่นดีไซน์พิเศษ ที่เกิดจากการ Collaboration กับศิลปิน และแบรนด์ระดับโลก มาตีความ และถ่ายทอดประสบการณ์ในมิติใหม่ๆ บอกเลยว่าโปรดักชันจัดเต็ม !

เปิดตัว ‘Vespa Primavera Color Vibe’

อีกไฮไลต์ที่ดูแล้วถูกใจสาวกเวสป้ามากๆ คือการเปิดตัวสกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุด ‘Vespa Primavera Color Vibe’ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันของพระอาทิตย์ที่กระทบผืนน้ำก่อนจะลับของฟ้า และอีกหนึ่งรุ่นสุดฮิต คือ Vespa GTS Series

เป็นหนึ่งในงานที่ใช้พื้นที่ของ Lido Connect ได้คุ้มมากกก อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบคือเป็นงานที่ไม่ได้จัดขึ้นแค่สำหรับคนที่รักเวสป้า แต่สำหรับคนที่รักศิลปะ, ชอบเสพ Pop Culture หรืออยากเดินงานนิทรรศการดีๆ ซักงาน ต่อให้ไม่รู้จักเวสป้าซักรุ่น ก็ไม่ผิดหวังเช่นกัน

แม้งานจะจบไปแล้ว แต่เราเอาบรรยากาศต่างๆ จากทั้ง 5 โซนมาฝาก ลองเลื่อนดูได้กันได้เลย !


เส้นทาง VESPA ในประเทศไทย

ตอนไปถึง Lido Connect ก็เจอป้ายไฟ VIVA LA VESPA ในทันที เป็นเหมือนอินโทรก่อนเข้างาน ที่บอกว่าสีสันของความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้น ! โดยเป็นเหมือนเขาวงกต ที่พาเราไปย้อนเส้นทางของเวสป้าในเมืองไทย ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2010-2023

ไฮไลต์ของบริเวณนี้คือโมเดล VESPA PX 125 ที่เป็นดีไซน์สุดคลาสสิค ที่ชาว Vespisti หลงใหล การันตีด้วยยอดขายทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคันไปแล้ว ! แค่เดินผ่านก็เห็นเด่นออกมาเลย

เมื่อขึ้นไปชั้นบนก็ให้บรรยากาศที่สดใส สนุกสนานสมกับเป็นเวสป้าจริงๆ เหมือนได้ย้อนไปเห็นเทรนด์แฟชั่นของไทยในยุคสมัยต่างๆ เป็นเหมือน Transition เปลี่ยนจากโลกภายนอก ให้เราเข้ามาสู่การเดินทางไปกับเวสปาได้อย่างสมบูรณ์

ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าคิดมาละเอียดมาก เพราะนอกจาก Transition เข้าสู่งานนิทรรศการหลัก ก็ยังออกแบบ Transition เวลาเราเดินเปลี่ยนโซนย่อยๆ ในงานด้วย

ZONE 1: VESPA X SEAN WOTHERSPOON

คอลเลคชันแรกที่เราได้เจอหลังจากเข้ามาในส่วนนิทรรศการหลัก คือผลงานความร่วมมือกับเจ้าพ่อ Street Fashion ที่บ้าคลั่งที่สุดคนหนึ่ง ! ด้วยความหลงใหลในความสตรีทแบบเข้าเส้น ทำให้ได้ฝากผลงานไว้กับแบรนด์ดังๆ มากมาย

รวมถึงผลงาน Masterpiece อย่าง Vespa Primavera คันนี้ ที่ความโดดเด่นคือการเลือกใช้สีสันหลากหลาย มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ตามคอนเซ็ปต์ ‘Connection through colours’

จะเห็นได้ว่าตัวพื้นหลังที่เป็น Layer ของสีสัน จะมีการเลือกเติม Texture เข้าไป รวมถึงมีการใช้ความทึบ-ความโปร่ง ทำให้ Vespa ที่ตั้งอยู่มีความโดดเด่นออกมาในทันที

ZONE 2: VESPA 946 X EMPORIO ARMANI

เมื่อเดินทะลุผ่านม่านมายังห้องที่ 2 จะพบกับงานงานดีไซน์ระดับตำนาน ที่สะท้อนความหรูหรา ละเมียดละไมแบบฉบับบอิตาเลียนออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ จนเรียกได้ว่าเป็น ‘Italian Perfection’ 

โดยมีบรรยากาศต่างจากห้องที่แล้วเป็นอย่างมาก เหมือนสีสันที่ถูกความมืดกลืนกินเข้าไป ความมืดที่เป็นตัวแทนของความสงบ ซึ่งมู้ดโดยรวมก็ทำให้คนในห้องยืนดูอย่างสงบจริงๆ 

ในห้องจะมีเพียงการเคลื่อนไหวไปมาของแสงไฟเท่านั้น อาจจะตีความได้ว่า แม้ปัจจัยภายนอกจะขยับเขยื้อนเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่ตัวโมเดลที่ตั้งอยู่กลางห้องก็ยังคงความมั่นคง สงบ น่าค้นหานั่นเอง

ZONE 3: VESPA X JUSTIN BIEBER

ห้องที่คนต่อคิวกันเยอะมาก เพราะการจะเสพบรรยากาศในห้องนี้ได้เต็มที่ควรจะมีจำนวนคนให้น้อยที่สุด ! เป็นพื้นที่ตารางสีขาว-ดำ ล้อมด้วยกระจกสะท้อนไปมา

โดยคอนเซ็ปต์ที่ถูกดีไซน์ร่วมกับศิลปินระดับโลกอย่าง Justin Bieber คือ ‘Be Different, Be Unique’ ออกมาเป็น Vespa สีขาวล้วน (ลวดลายไฟยังเป็นสีขาวเลย !) เปรียบเหมือนผืนผ้าใบเปล่าๆ ที่รอให้เจ้าของได้เติมเต็มตัวตน สะท้อนเรื่องราวของตัวเองลงไป รอบๆ ก็เลยถูกดีไซน์ให้เป็นกระจกนั่นเอง

ZONE 4: VESPA X CHRISTIAN DIOR

เข้ามาสู่ห้องที่ 4 ที่เหมือนเราได้ใช้เวลาวันหยุดไปพักผ่อน ปล่อยใจปล่อยจอย ปิดสวัตช์จากโลกที่วุ่นวาย ท่ามกลางบรรยากาศของท้องทะเล นอนรับแสงแดด ท่ามกลางหาดทราย มีลมเบาๆ พัดมาให้ผ่อนคลาย

ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนการเปรียบเทียบว่า ความหรูหราที่แท้จริง คือการใช้ชีวิตที่มีความสุขในแบบของตัวเรา ซึ่งถูกดีไซน์ออกมาใน Vespa 946 Christian Dior ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Joie de vivre (Joy of life)’ นั่นเอง

ZONE 5: VESPA (RED)

ห้องหลักห้องสุดท้ายที่เรียกได้ว่าสีแดงเด่นมาแต่ไกล ! ซึ่งเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ขององค์กร (RED) ที่มักร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ในการระดมทุน และนำไปบริจาคให้กับกองทุนโลกเพื่อยุติโรคเอดส์ (รวมถึงวัณโรค และมาลาเรีย) เป็นหนึ่งในองค์กรที่ Vespa ให้ความสนับสนุนร่วมมือกับมาตั้งแต่ปี 2017

คอลเลคชันนี้จึงเป็นเหมือนการใช้สีแดง เพื่อสะท้อนถึงความรัก ความห่วงใยที่ส่งต่อให้กับเพื่อนมนุษย์ทั้งโลก และเชื่อมต่อความรู้สึกเหล่านี้ด้วยเส้นสายกราฟิกแบบภาพลวงตา ให้เราได้ตั้งสมาธิมองไปที่ตัวสกู๊ตเตอร์

Community ชาว Vespisti ในช่วงพระอาทิตย์ตก

เมื่อทะลุผ่านห้องสุดท้ายออกมาก็จะกลายเป็นห้องใหญ่ที่รวมตัวชาว Vespisti ได้มาสังสรรค์พูดคุยกัน เหมือนเราเดินทางมาถึงจุดหมาย เป็นบรรยากาศของ Community ที่ดีมากๆ ท่ามกลาง พระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าอยู่ด้านหลัง

และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ในช่วงพระอาทิตย์ตก ก็เผยให้เห็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของงานนั่นคือสกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุด ‘Vespa Primavera Color Vibe’ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันของพระอาทิตย์ที่กระทบผืนน้ำก่อนจะลับของฟ้า (The Oceanic Sunset) นั่นเอง

เป็นสีทูโทน ตัดด้วยสีดำ เป็นคอลเลคชันที่มี Vibe เฉพาะตัว ดูสนุกสนานด้วยเฉดสีส้ม Orange Tramonto, สีฟ้า Blue Audace และสีแดง Red Passion

ชาว Vespisti ยังได้พูดคุยทำความรู้จักกัน พร้อมด้วยเพลงจาก Dept ที่เหมาะกับการเดินทางแบบสุดๆ

ใครที่พลาดงานนี้ไปก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะในปีนี้ Vespa เค้าจัดเต็ม นิทรรศการนี้เป็นเพียงแค่กิจกรรม Kick-off ในแคมเปญ ‘VIVA LA VESPA’ ที่รับรองว่าจะมีกิจกรรมอีกเพียบรอคิวออกมาให้เพื่อนๆ ได้ร่วมสนุกไปด้วยกันแน่นอน

© 2021 Art of. All rights reserved.

  083-138-5607
contact@artofth.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save