teamLab Biovortex Kyoto สาขาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น กับงานศิลปะที่ก้าวข้าม “มวล” และ “รูปทรง” สู่โลกของพลังงานที่หมุนวนไม่สิ้นสุด
พบกับ teamLab Biovortex Kyoto พิพิธภัณฑ์ถาวรของ teamLab ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น กับงานศิลปะที่ก้าวข้าม “มวล” และ “รูปทรง” สู่โลกของพลังงานที่หมุนวนไม่สิ้นสุด
สำหรับคนชอบงานศิลปะแบบ immersive คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก teamLab กลุ่มศิลปินที่เป็นผู้นำด้านการออกแบบประสบการณ์รับชมศิลปะที่ไม่เหมือนใคร ก่อตั้งในปี 2001 โดย โทชิยูกิ อิโนโกะ (Toshiyuki Inoko) และกลุ่มเพื่อน จนปัจจุบันทีมประกอบไปด้วย ศิลปิน นักโปรแกรมเมอร์ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญหลากสาขาจากนานาประเทศ เพื่อผลักดันขอบเขตของการรับชมศิลปะออกไปอย่างไม่รู้จบ
สิ่งที่ทำให้พิพิธภัณฑ์ศิลปะในแบบของ teamLab โดดเด่นก็คือ ปรัชญาเบื้องหลังของผลงาน และ เทคนิคการนำเสนอ นั่นเอง
Photo: teamLab, Universe of Water Particles © teamLab
พิพิธภัณฑ์ศิลปะของ teamLab มักจะบอกเล่าถึงเรื่องราวที่เป็นนามธรรม ไร้รูป ไร้ขอบเขต เช่น สี แสง ความมืด ที่มีความเกี่ยวพัน การหมุนวน และทั้งหมดนี้ถูกบรรจงถ่ายทอดออกมาด้วยเทคโนโลยีล่าสุดต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ทั้งทางรูปลักษณ์ สัมผัส กลิ่น และเสียง ที่มนุษย์จะรับรู้ได้ จนทลายขอบเขตการชมศิลปะแบบเดิม ทำให้การชมศิลปะเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงและมีประสบการณ์ร่วมได้ รวมไปถึงทำให้ศิลปะกลายเป็นสนามเล่นของเด็กๆ ด้วย
teamLab Biovortex Kyoto พิพิธภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในเกียวโต ขึ้นแท่นเป็นพิพิธภัณฑ์ถาวรของ teamLab ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร นอกจากผลงานชิ้นเด่นๆ ที่เคยเห็นกันมาก่อนแล้ว ยังมีผลงานใหม่มาจัดแสดงอีกด้วย โดยมีผลงานรวมมากกว่า 50 ชิ้น เลยทีเดียว
แต่ละชั้นมีผลงานอัดแน่น ไม่ว่าจะเลี้ยวไปทางไหนก็จะเจอผลงานแอบซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ โดยเมื่อเข้าชมแล้วจะสามารถอยู่ได้นานเท่าที่ต้องการในเวลาทำการ แนะนำให้เผื่อเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เพราะสถานที่จริงมีขนาดใหญ่และหลายชั้น
Art of จะพาไปชมบรรยากาศผลงานใหม่ พร้อมเจาะลึกความหมายของแต่ละผลงาน เตรียมพร้อมสำหรับคนวางแผนเที่ยวแถบคันไซ หรือเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และที่สำคัญต้องขอขอบคุณ Thai Airasia X ที่พา Art of ไปสัมผัสประสบการณ์ในครั้งนี้ด้วย!
📌 teamLab Biovortex Kyoto
– Kyoto, Japan
– เปิดตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2025 เป็นต้นไป เวลา 9:00 น. – 21:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย: 19:30 น.) วันทำการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแนะนำให้ตรวจสอบทางเว็บไซต์และทำการจองก่อนไป
ดูรายละเอียดการซื้อตั๋วได้ที่ https://www.teamlab.art/e/kyoto/
Massless Amorphous Sculpture เมื่อศิลปะก้าวข้าม ‘มวล’ และ ‘รูปทรง’ สู่โลกของพลังงานที่หมุนวนไม่สิ้นสุด
Photo: teamLab, Massless Amorphous Sculpture © teamLab
ผลงานที่น่าจะเตะตาและแปลกใหม่ที่สุด คงจะต้องยกให้กับผลงานนี้ เพราะนี่คือการสร้างประติมากรรมอันไร้ขอบเขต ที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปตลอดการรับชม
มองเผินๆ อาจเหมือนเดินท่ามกลางเหล่าก้อนเมฆ แต่แท้จริงแล้วผลงานนี้คือ ‘ทะเลฟองสบู่’ ประติมากรรมลอยขนาดมหึมาที่ปรากฏขึ้นอย่างไร้น้ำหนัก หรือจะเรียกว่า ‘ประติมากรรมอรูปไร้สันฐาน’ ก็ได้
ฟองเหล่านี้ไม่ลอยสู่เพดาน แต่ก็ไม่ตกสู่พื้น มีมวล สัมผัสได้ แต่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และหากไม่อยู่ในสภาพการณ์นั้น ก็ไม่สามารถคงรูปร่างอยู่ได้เลย
ไม่ใช่แค่มีรูปลักษณ์ที่น่าประทับใจ แต่ผลงานนี้ยังมีเบื้องหลังที่ลึกซึ้งกว่านั้น ด้วยปรัชญาที่พูดถึงพลังงานที่ดำรงอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ศิลปะก็เหมือนธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงตามสิ่งแวดล้อม ปรับตัวไปตามพลังงานรอบข้าง และยังคงรูปร่างได้แม้ผู้คนจะอยู่ภายในนั้น ตามคอนเซ็ปต์ของชื่อ teamLab Biovortex
Massless Suns and Dark Suns ประติมากรรมแห่งการรับรู้ที่ไม่มีอยู่จริง
ผลงานนี้เกิดจากแนวคิดที่ว่า “เราไม่ได้รับรู้โลกตามที่เราเห็น แต่เราเห็นโลกตามที่เรารับรู้” ผลงานนี้ต้องมองด้วยตาเท่านั้น เพราะกล้องไม่สามารถบันทึกความรู้สึกเท่าที่ตาเห็นได้เลย
แสงที่ใช้ในผลงานนี้มี ‘ความประหลาด’ อยู่ เพราะถึงแม้จะไม่มีฉากรับ แต่กลับเปล่งประกายรัศมีล้อมรอบในแบบที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้น
ผลงานนี้ประกอบด้วย กลุ่มแสงนับไม่ถ้วนลอยอยู่ท่ามกลางความมืดราวกับ ‘พระอาทิตย์ขนาดเล็ก’ เมื่อผู้ชมขยับเข้าใกล้หรือพยายามสัมผัส ก็จะเปล่งประกายเจิดจ้า รับกับดวงข้างเคียงต่อไปเหมือนลูกโซ่ไปทั่วพื้นที่
แต่เมื่อผู้ชมขยายมุมมองออกไป ก็จะเริ่มเห็น ‘ทรงกลมมืด’ ปรากฏขึ้น คล้ายกับว่าความมืดได้แข็งตัวกลายเป็นวัตถุ และมันดำรงอยู่ได้เพียงในสายตาและการรับรู้ของผู้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นเท่านั้น
Megaliths in the Eternal Existence of the Open Universe เสาหินที่ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ในจักรวาล
Photo: teamLab, Megaliths © teamLab
ในผลงานนี้มีการผสานองค์ประกอบทางดิจิทัลเข้ากับธรรมชาติ โดยมีการใช้แสงและเสียงในการแสดงภาพเรื่องราวของธรรมชาติต่างๆ บน เสาหิน (megaliths) และยังมีต้นไม้นานาชนิดที่ปลูกไว้จริงๆ อีกด้วย ทั้งต้นหญ้าต้นเล็กๆ ไปจนถึงเหล่าเห็ดจิ๋ว อีกทั้งในบางขณะก็จะมีฝนโปรยปรายส่องแสงลงมาด้วย
Photo: teamLab, Megaliths © teamLab
ทุกครั้งที่ผู้ชมเคลื่อนไหว รูปแบบของแสงและเงารอบตัวจะเปลี่ยนไป ทำให้ประสบการณ์ไม่เคยซ้ำ และไม่มีภาพเดิมกลับมาอีกเลย ผลงานนี้จึงเป็นการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
Morphing Continuum เปลี่ยนแปลง หมุนวน สัมพันธ์
Photo: teamLab, Morphing Continuum © teamLab
ในโลกที่ทุกสิ่งดูเป็นวัตถุ ต่างที่ ต่างเวลา แต่ผลงานชิ้นนี้กำลังนำเสนอแนวคิดตรงกันข้าม ศิลปินชี้ให้เห็นว่า เมื่อองค์ประกอบต่างๆ สร้าง “ระเบียบโครงสร้าง” ร่วมกันได้ แม้มันจะอยู่ห่างกันในเวลาและสถานที่ ความสัมพันธ์นั้นจะเชื่อมโยงให้ทุกสิ่ง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
เหมือน ‘จักรวาล’ ที่ หมุนเวียน ก่อเกิด และหวนคืนสู่ตนเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม้ว่ารูปทรงหรือขนาดขององค์ประกอบจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง พลังงานที่ยังคงดำรงอยู่ ก็คือ “การดำรงอยู่เชิงพื้นที่และเวลา”
แม้ผู้ชมจะเดินจะเดินเข้าไปใจกลางผลงานที่กำลังเคลื่อนไหวจนมันหยุดชะงัก แต่มันก็สามารถพื้นฟูตนเองกลับมา เคลื่อนที่ไปตามธรรมชาติต่อได้ ผลงานนี้จึงก้าวข้ามแนวคิดดั้งเดิมของ “วัตถุ” ในศิลปะ จากสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ เป็นศิลปะที่เป็นพลังงานที่โอบล้อมผู้ชมไว้ในความเคลื่อนไหวอันต่อเนื่องไม่รู้จบ
Traces of Life รอยทางแห่งชีวิต
เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ศิลปะที่น่าตื่นตา เปรียบเหมือนสิ่งมีชีวิตที่เต้น เคลื่อนไหว และตอบสนองต่อการปรากฏตัวของผู้คน ภายในห้องนิทรรศการที่ดูว่างเปล่า เมื่อผู้ชมก้าวเท้าเข้าไป รอยฝีเท้าของพวกเขาจะส่องแสงขึ้น และคงอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆ เชื่อมต่อกันกลายเป็นเส้นทางแสงยาวต่อเนื่อง ก่อนจะค่อยๆ หายไปเมื่อไม่มีผู้คนอยู่ในพื้นที่ งานศิลปะนี้จึงเกิดขึ้นได้ ผ่านการมีอยู่ของมนุษย์เท่านั้น
แนวคิดนี้สะท้อนปรัชญาอันลึกซึ้งของ teamLab ที่เชื่อว่า งานศิลปะไม่ได้แยกจากผู้ชม แต่เกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เป็นสภาวะที่ ‘ศิลปะ’ และ ‘ชีวิต’ หลอมรวมกันจนแยกไม่ออก
Athletics Forest พื้นที่ศิลปะเชิงกายภาพ
ใครว่าศิลปะจะเล่นสนุกไม่ได้ ? โซนนี้เป็นโซนที่จะทำให้ผู้ชมขยับได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ พื้นที่แห่งนี้ออกแบบให้ผู้ชมต้องใช้การเคลื่อนไหว การทรงตัว และการรับรู้เชิงมิติ เพื่อสำรวจโลกสามมิติที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ราวกับเป็นสวนสนุกที่ชวนให้เราตอบสนองต่อแสงสีที่อยู่รอบตัว โดย teamLab ต้องการให้พื้นที่นี้ช่วยกระตุ้นให้สมองมองเห็นโลกในรูปแบบที่ซับซ้อนและลึกซึ้งกว่าเดิม กระตุ้นให้คนขยับเขยื้อน ไม่จำกัดร่างกายไว้กับข้อมูลแบนราบอย่างหนังสือ โทรทัศน์ และหน้าจอสมาร์ทโฟน
Photo: teamLab, Waterfall Droplets, Flowing Down a Slope © teamLab
โซนนี้เล่นสนุกในแบบที่ไม่ต้องเป็นเด็กก็เล่นได้ บางอันอาจดูเหมือนง่าย แต่อาจต้องทรงตัวมากกว่าที่คิด หลังจากเดินชมงานมาหลายโซน ก็ถือว่าจบด้วยการขยับเขยื้อนร่างกายนี่อย่างสนุกเลยทีเดียว
ที่ teamLab Biovortex Kyoto ยังมีอีกหลายโซนให้สำรวจ หากใครได้มาชม ก็เชื่อว่าจะเป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลย
📌 teamLab Biovortex Kyoto
– Kyoto, Japan
– เปิดตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2025 เป็นต้นไป เวลา 9:00 น. – 21:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย: 19:30 น.) วันทำการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแนะนำให้ตรวจสอบทางเว็บไซต์และทำการจองก่อนไป
ดูรายละเอียดการซื้อตั๋วได้ที่ https://www.teamlab.art/e/kyoto/
