ตีความสถาปัตยกรรมใหม่ บนปกแฮร์รี่ พอตเตอร์

หนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์นั้นเป็นตำนานและครองใจหลายๆคนมาเป็นเวลาช้านาน หนังสือทั้ง 7 เล่มนั้นตั้งแต่ออกขายเมื่อปี 1997 ได้ถูกแปลออกมาหลายภาษามากกว่า 80 ภาษา และถูกออกแบบปกมากกว่า 200 เวอร์ชั่นแล้ว! และในแต่ละเวอร์ชั่นนั้นก็ล้วนมีเอกลักษณ์และความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป

สำหรับ Italian Edition 2021 โดยสำนักพิมพ์ Salani Editore ได้นักออกแบบชาวอิตาเลียน Michele de Lucchi ที่เป็นทั้งสถาปนิก นักออกแบบผลิตภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์แห่ง Arch Michele De Lucchi srl มาร่วมสร้างสรรค์ปกเวอร์ชั่นนี้ออกมาและวาดถ่ายทอดบนปกโดยศิลปิน Andreas Rocha นอกจากนี้ยังมีโมเดลอาคารของจริงจัดแสดงอย่างสวยงามในงานเปิดตัวอีกด้วย

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ ผู้ออกแบบได้ตัดสินใจล้างภาพเดิมๆของสถาปัตยกรรมในเรื่องทั้งหมด ถอยหลังกลับมาที่ศูนย์ โดยผู้ออกแบบตั้งใจที่จะตีความสถาปัตยกรรมในแต่ละภาคออกมาใหม่ ที่มีทั้งเรื่องราว, สัญลักษณ์ และการตีความที่แตกต่างกัน เรียกได้ว่า จินตนาการนั้นไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ

1. Harry Potter and The Philosopher’s stone

อาคารที่สำคัญที่สุดของภาคนี้คือ ‘โรงเรียนฮอกวอตส์‘ นั่นเอง ซึ่งโดยทั่วไปนั้นผู้คนมักจะจินตนาการออกมาเป็นปราสาทโบราณที่มีหอคอยมากมาย แต่ในปกนี้ผู้ออกแบบนำมาตีความใหม่ โดยเริ่มต้นคิดจากรูปร่างของ Abbey หรือ โบสถ์ ที่มีด้านล่างอาคารที่ดูมั่นคงที่ฐาน และเมื่อสูงขึ้นไปก็จะมีลักษณะที่แหลมและเพรียวขึ้น ซึ่งโบสถ์ลักษณะนี้พบได้ในโบสถ์ gothic ในเมือง Tuscany และระแวกกลางประเทศอิตาลี

เมื่อมองโดยภาพรวมแล้วเราจะรู้สึกเหมือนมันมีความเป็นฮอกวอตส์อยู่นะ มีหลายหอคอยรวมเป็นกลุ่ม และรูปร่างสูงเพรียว แต่ดูมีความลดทอนให้ดูมินิมอลขึ้น แต่ต้องยอมรับว่ามันลดความดูอบอุ่นลงไปมาก ดูเยือกเย็นราวกับเป็นเดิร์มแสตรงก์ในจินตนาการเลยทีเดียว

2. Harry Potter and The Chamber of Secrets

อาคารที่โดดเด่นในภาคนี้ก็คือ ‘บ้านโพรงกระต่าย’ ของครอบครัววีสลีย์นั่นเอง โดยผู้ออกแบบมองเห็นอาคารนี้เป็นเหมือนชิ้นที่วางแสต็คทับกันและทำให้มีความสมดุลให้ไม่พังลงมา บวกกับเวทมนตร์คาถาอีกนิดหน่อย นอกจากการแสต็คนั้นจะเป็นลักษณะทางโครงสร้างแล้ว ยังแสดงถึงความหมายเชิงสัญลักษณ์ของครอบครัววีสลีย์ที่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและห่วงใยกัน

โดยอาคารในปกนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาคารสมัยก่อนที่ต้องใช้วิธีการเดียวกันนี้ ในการสร้างออกมาเป็นบ้าน โบสถ์ หรือกระทั่งเพิงเล็กๆ ซึ่งภาพรวมเสร็จออกมาแล้วต้องบอกว่า มันดูเป็นบ้านโพรงกระต่ายที่มีความโมเดิร์นขึ้นมาก แต่ก็ยังมีความเป็นครอบครัววีสลีย์อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยหน้าต่างที่ดูแรนดอมสุดๆ หรือหลังคาชิ้นบนที่ดูเหมือนอยู่ได้ด้วยคาถาจริงๆ

3. Harry Potter and The Prisoner of Azkaban

อาคารที่สำคัญที่สุดจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ‘คุกอัซคาบัน’ ที่เป็นที่ที่ซีเรียส แบล็ค ถูกขังอยู่ 12 ปีนั่นเอง! ซึ่งสิ่งที่น่าแปลกก็คือ ในหนังสือไม่เคยบรรยายลักษณะของสถานที่แห่งนี้ไว้เลย เพียงแต่บรรยายว่ามันตั้งอยู่บนเกาะที่หนาวเหน็บในทะเลทางเหนือ

ผู้ออกแบบจินตนาการถึงเสาหินโบราณ หรือ monolith โดยราวกับคุกนี้มีการต่อเติมขึ้นไปแบบไม่สิ้นสุดเพื่อรองรับนักโทษมากมาย

4. Harry Potter and The Goblet of Fire

สถานที่สำคัญในต้นเรื่องนั่นคือสนามควิดดิชเวิลด์คัพนั่นเอง ซึ่งผู้ออกแบบจินตนาการที่นั่งอัฒจรรย์นั่นออกมาเป็นเหมือนอาคารที่ลอยได้ ที่เป็นลักษณะของยูนิตที่สามารถนำมาต่อกันเป็นกลุ่มใหญ่ หรือจะลอยแยกกันก็ได้ เมื่อมองในมุมนี้ก็พบว่าตีความออกมาได้น่าสนใจทีเดียว เพราะลักษณะกีฬาควิดดิชนั้นเล่นบนไม้กวาดที่ลอยไปมา หากที่นั่งคนดูสามารถลอยย้ายไปมาได้ก็คงจะน่าสนุก แต่ผู้เล่นอาจจะไม่สนุกด้วย เพราะคงจะปวดหัวมากเลยทีเดียว

5. Harry Potter and The Order of Phoenix

สถานที่ที่ผู้ออกแบบเลือกมาในภาคนี้คือ ‘กระท่อมแฮกริด’ นั่นเอง (ซึ่งในความเห็นแอดมินก็ไม่ถึงกับเด่นมากนะในภาคนี้ แต่อาจจะไม่มีอาคารไหนที่น่าหยิบมาเล่นแล้วก็เป็นได้) กระท่อมแฮกริดในเวอร์ชั่นนี้นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากกองฟางที่วางซ้อนกัน ซึ่งด้วยลักษณะของฟางที่เป็นวัสดุธรรมชาติทำให้กลมกลืนไปกับพื้นที่ธรรมชาติ

จะว่าไปกระท่อมแบบนี่ทำให้นึกถึงความเป็นตัวแฮกริดเอง ที่เป็นคนที่รักธรรมชาติ สัตว์ป่า รวมถึงรูปร่างอาคารก็มีความคล้ายแฮกริดมากเลยทีเดียว

6. Harry Potter and The Half-blood Prince

ฉากที่สำคัญที่สุดในภาคนี้ คงจะเป็นฉากจากบท ‘หอคอยที่ถูกฟ้าผ่า’ ที่เกิดขึ้นที่ ‘หอดูดาว’ ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดที่ปราสาทฮอกวอตส์ที่นักเรียนใช้เป็นสถานที่เรียนวิชาดาราศาสตร์นั่นเอง

ผู้ออกแบบ ออกแบบหอคอยนี้ให้เป็นเหมือนโพรงอากาศ ซึ่งมีคุณสมบัติที่พิเศษราวกับมีเวทมนตร์คือในโพรงนี้จะดึงลมเข้ามาทำให้ข้างในนั้นได้สัมผัสกับลมธรรมชาติ และยังได้สังเกตการณ์ดาวบนท้องฟ้าด้านบนได้อย่างไม่มีสิ่งใดรบกวน

7. Harry Potter and The Deathly Hallows

เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในภาคนี้คือ สงครามที่ฮอกวอตส์ นั่นเอง โดยผู้ออกแบบเลือก ‘สะพาน’ ที่ฮอกวอตส์ อันมีความหมายเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับทางเชื่อมการมาของสงครามและความชั่วร้าย ซึ่งในภาพยนตร์มีฉากการระเบิดสะพานทิ้งด้วย เพื่อขัดขวางผู้เสพความตาย

สะพานในปกนี้ถูกออกแบบมาราวกับเถาวัลย์พวกนี้เลื้อยออกมาพันกันสร้างเป็นสะพาน ดูกลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ แฝงด้วยความขลังเบาๆ ส่วนหลังคานั้นแอดมินคาดว่าคล้ายกับเป็นโครงสร้างแบบ Thin Shell Structure ทำจากไม้ที่ดูบางเบาและไหลลื่น