61Views
สวมบทบาทเป็น Dragonfly สัมผัสประสบการณ์เส้นสายแห่งความลื่นไหล กับแนวคิดการออกแบบอิเวนต์ของ PixelOne
หากใครมีโอกาสได้ผ่านไปที่สยามพารากอนเมื่อช่วงเดือนก่อน อาจจะได้เห็นป้ายของหนึ่งในงานใหญ่ระดับโลก ที่รวมตัวผู้นำความคิดที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง และผู้ที่สนใจด้านสุขภาพจากทั่วโลก นั่นคืองาน “Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024”
ซึ่งในงานก็จบลงด้วยความสำเร็จ มีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน แต่ ! สิ่งที่น่าสนใจมากๆ ในงาน คือมีการเสวนาในรูปแบบ Immersive ด้วยความตั้งใจที่จะให้คนเข้าถึงเนื้อหาแบบลึกซึ้งมากกว่าแค่การนั่งฟังเฉยๆ
ดังนั้นในงานนี้ ‘พารากอนฮอลล์’ จึงต้องถูกดีไซน์ใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ของงาน และสร้างประสบการณ์ให้ทุกคนได้ร่วมสัมผัสการเดินทางแห่งการค้นพบตนเอง และส่งเสริมศักยภาพของผู้นำทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณสู่การเป็นผู้นำที่ดีในทุกมิติ
ซึ่งเบื้องหลังการสร้างประสบการณ์ในอิเวนต์ครั้งนี้ก็ได้ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบประสบการณ์สำหรับงานอิเวนต์อย่าง ‘PIXEL1EVENT’ (เป็นทีมที่อยู่เบื้องหลังอิเวนต์ดังๆ หลายงานนะ) มาช่วยออกแบบ เก็บทุกรายละเอียด ใช้ความสร้างสรรค์ที่เหนือความคาดคิด เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ผู้ร่วมงานที่ไม่ได้คาดหวังไว้ ให้กลายเป็น Journey ที่สมบูรณ์ที่สุด !
ซึ่งวันนี้ขอหยิบเอาแนวคิดการออกแบบอิเวนต์ ที่เหมือนเราได้สวมบทบาทเป็น Dragonfly ที่เคลื่อนไหวสัมผัสถึงพลังชีวิตในทุกก้าวที่เดินทางผ่านมาเล่าให้ฟังกัน ! ตามไปอ่านได้เลย
Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024
Dragonfly เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในเอเชียที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพของผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เพื่อสร้างสังคมที่ครอบคลุมและกลมกลืนมากยิ่งขึ้น
โดยงาน Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024 คืองานรวบรวมผู้นำความคิดที่มีชื่อเสียง ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง และผู้ที่สนใจด้านสุขภาพจากทั่วโลก มาร่วมสัมผัสการเดินทางแห่งการค้นพบตนเอง ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและทวีปเอเชีย กับสุดยอด เทศกาลเวลล์เนสเพื่อพัฒนาผู้นำที่ใหญ่ที่สุด เพื่อจุดมุ่งหมายการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ถือเป็นครั้งแรกที่จะมีการเสวนาในรูปแบบ Immersive ซึ่งครั้งนี้ก็มาในคอนเซ็ปต์ที่เป็นหัวใจหลักของงานคือ Harmony, Empathy, Acceptance, and Love นั่นเอง
โดยงานก็จัดขึ้นไปเรียบร้อยเมื่อวันที่ 22-23 ตุลาคม 2024 ณ พารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
“เส้นสายแห่งชีวิต” การไหลเวียนที่เชื่อมโยงต่อเนื่องไปทั่วทั้งงาน
ทาง PIXELONE ได้ตีความคอนเซ็ปต์ของงาน Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024 ออกมาเป็นแนวคิดการออกแบบที่สะท้อนถึง “Flow of Life” หรือ “การลื่นไหลของชีวิต” ถ่ายทอดความหมายของชีวิตที่เคลื่อนไหวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
องค์ประกอบหลักของงานคือ “เส้นสาย” ซึ่งเป็นตัวแทนของการไหลเวียน และความเคลื่อนไหวไปทั่วทั้งงาน ซึ่งไม่ได้เป็นเส้นสายที่ซับซ้อน แต่ตอบโจทย์แนวคิดการออกแบบได้อย่างลงตัว นั่นคือการเชื่อมโยงองค์ประกอบแต่ละอย่างเข้าด้วยกัน
ทั้งการเชื่อมโยงผู้ร่วมงานจากโลกภายนอกเข้ากับโลกภายในงาน / เชื่อมโยงพื้นที่ของงานทั้ง 4 โซนเข้าด้วยกัน / เชื่อมโยงการสื่อสารระหว่าง Speaker กับผู้ร่วมงาน / ไปจนถึงภาพกว้างอย่างการเชื่อมโยงชีวิต เข้ากับธรรมชาติ
“ผ้า และวัสดุที่พลิ้วไหว” สร้างความนุ่มนวล และยืดหยุ่น
เมื่อพูดถึงความลื่นไหล แน่นอนว่าวัสดุหลักๆ ที่ตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ได้ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ‘ผ้า’ ซึ่งมีทั้งความพลิ้วไหว นุ่มนวล และยืดหยุ่น เส้นโค้งของผ้าที่พลิ้วไหวช่วยสร้างความนุ่มนวลที่แทรกซึมในบรรยากาศ เปลี่ยนแปลงเป็นความรู้สึกที่ผ่อนคลาย
ด้วยความเบาของผ้า จึงสามารถเคลื่อนไหวไปตามแรงแรงลม ทำให้เหมือนกับภาพรวมของงานมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สัมผัสได้ถึงความลื่นไหล และอ่อนโยนของชีวิต
รวมถึงอีกคุณสมบัติคือเรื่องของ Texture ที่มีความโปร่ง ก็ถูกออกแบบวาง Layer ให้มีความสั้น-ยาว, หน้า-บาง เพื่อเล่นกับ แสงสี และเงาได้อย่างน่าสนใจ
ภายในงานผ้าถูกนำมาออกแบบเป็นเส้นสายที่ลื่นไหลไปทั่วงาน ในขณะที่เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งเวทีและบูท ก็เป็นองค์ประกอบที่เชื่อมต่อทุกสิ่งให้เป็นหนึ่งเดียวไปพร้อมกัน
“แสง และสีที่ไม่หยุดนิ่ง” สร้างการไหลเวียนของเส้นสายแห่งชีวิต
อย่างที่เกริ่นไปในภาพก่อนหน้า ว่า Texture ความโปร่งของผ้าถือเป็นวัสดุที่เมื่อผสมผสานกับ “แสง-สี” จะมาเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างอารมณ์ความรู้สึกได้มากมาย
แสงในงานนี้จึงทำหน้าที่ในการสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรู้สึกแห่งการเคลื่อนไหว ด้วยโทนสีที่ค่อยๆ Transition อารมณ์อย่างช้าๆ ความเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง เปรียบเสมือนพลังชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง
แสงในงานนี้จะถูกสาดกระจายตามเส้นสายที่ไหลเวียนทั่วงาน นอกจากจะตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ความลื่นไหลของเส้นสายได้เป็นอย่างดี ยังเป็นเหมือนตัวช่วยนำทางในแง่ฟังก์ชันอีกด้วย
“เชื่อมโยงประสบการณ์” ที่กลมกลืนกันทั้งรายละเอียด และภาพรวม
การออกแบบอิเวนต์ที่ดีย่อมไม่ใช่แค่สร้างกิมมิคในแต่ละจุด แต่ต้องถอยออกมามองภาพรวมให้ทั้งงานกลมกลืนเป็นเรื่องเดียวกัน เพื่อให้ทั้ง Journey ของผู้เข้าร่วมงานได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
โดยในงานนี้ทาง PIXELONE เริ่มตั้งแต่การจัดวางพื้นที่อย่างลงตัวเพื่อให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการไหลเวียนนี้ตั้งแต่ก้าวแรก ให้ทุกคนสัมผัสประสบการณ์แบบองค์รวม ไม่ว่าจะมอง หรือสัมผัสก็สามารถรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา
โดยแบ่งเป็น 4 โซนไฮไลต์
1. The Path
พื้นที่ทางเดิน ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือน Transition จากโลกอันวุ่นวายภายนอก เป็นเหมือนการเดินทางผ่านพลังแห่งการลื่นไหลของชีวิต ที่ค่อยๆ ปรับสภาพจิตใจให้ก้าวเข้ามาสู่โลกใหม่ภายในงาน ระหว่างที่เดินเราจะเหมือนกับค่อยๆ ลื่นไหลไปกับเส้นสายของผ้า และแสงที่เคลื่อนไหว
2. Main Stage
โซนหลักสำหรับให้เหล่าผู้นำได้นั่งฟัง Session ต่างๆ พร้อมรับประสบการณ์ Immersive กับเส้นสายที่ดูพลิ้วไหวอยู่ด้านบน ซึ่งดูเหมือนจะเคลื่อนไหวเข้าสู่จุดศูนย์กลางคือเวที ช่วยสร้างสมาธิทำให้เรารู้สึกโฟกัสกับ Speaker บนเวทีได้มากยิ่งขึ้น
3. Well-Nest Area
พื้นที่พักผ่อน ที่ให้เหล่าผู้นำได้พบปะพูดคุยสร้าง Community พร้อมกับรับประสบการณ์บำบัดสุขภาพกาย และใจ มีบูทต่างๆ ที่ถูกกั้น Space ด้วยผ้าพลิ้วไหว ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบาย ไม่ได้เป็นบูธที่แข็ง และหนักจนเกินไป
4. The Bazaar
โซนตลาดที่มีร้านค้าของกิน จะตั้งอยู่ในโซนด้านนอกที่คนทั่วไปสามารถแวะเข้ามาได้ จึงใช้วัสดุที่ดูหนักขึ้น เพื่อเชื่อมโยงเข้ากับโลกภายนอกงาน
จะเห็นได้ว่า แม้แนวคิดของการออกแบบทั้งหมดถูกถ่ายทอดลงไปใน 4 โซนหลักๆ แต่ไม่ได้ถูกคิดแยกกันเป็นจุด แต่ถูกคิดเชื่อมโยงกัน เมื่อเคลื่อนไหวย้ายพื้นที่ก็จะมีเส้นสายที่มาเชื่อมโยงเราเอาไว้ เหมือนกับเราได้ลื่นไหลอย่างสมูธไปได้ตลอดทั้งงานนั่นเอง