คุยกับ บี – ชัญญกัญญ์ นักเล่าเรื่องที่ฮีลใจผู้คนด้วยธรรมชาติและศิลปะ

ในยุคที่หลายอย่างเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ บางครั้งเราอาจหลงลืมที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงรอบตัว ลืมคิดไปว่าสิ่งต่างๆ ในธรรมชาตินั้นอาจน่าสนใจกว่าที่คิด เพียงลองเปลี่ยนมุมมอง

ในวันนี้ Art of ได้มาพูดคุยกับ ‘บี – ชัญญกัญญ์’ หรือที่หลายคนอาจคุ้นจากเสียงที่เรียกคนดูว่า ‘เพื่อนๆ’ ของเธอ ที่มักจะมาพร้อมกับเรื่องราวที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับต้นไม้ สัตว์ และสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในธรรมชาติ เรื่องราวเหล่านี้ถูกถ่ายถอดผ่านน้ำเสียงสบายๆ ที่เหมือนคุยกับเพื่อน พร้อมทั้งการวาดรูปที่ช่วยสื่อสารเรื่องเล่าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ซึ่งจะว่าไป ทั้งเรื่องที่เล่าและวิธีการเล่าของเธอ ทำให้เหมือนคนดูได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เด็กที่ช่างสำรวจ ช่างสงสัย และชอบทดลองอะไรเล่นๆ สนุกๆ แบบที่ไม่ต้องกลัวผิดพลาด แค่ได้ลงมือทำก็สำเร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวการทำฝักบัวอาบน้ำจากใบบัว การฟื้นคืนชีพผีเสื้อด้วยงานประดิษฐ์ หรือกระทั่งการทำตุ๊กตาหมีจากดอกหญ้า

ทุกๆ เรื่องราวนั้นเหมือนเป็นสิ่งช่วยฮีลใจอย่างช้าๆ พร้อมกับภาพวาดที่เธอจดบันทึกและเล่าเรื่องอย่างสวยงาม ซึ่งทำให้นึกถึงตัวละครจากเรื่อง ‘Where the Crawdads Sing’ ที่เป็นนักวาดรูปสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติเลยทีเดียว

Art of จึงได้มาพูดคุยกับคุณบี ถึงที่มาที่ไป แรงบันดาลใจ และความคิดเบื้องลึกของเธอกัน หวังว่าบทสัมภาษณ์นี้จะทำให้หลายคนที่เคยดูหรือไม่เคยดูเรื่องราวต่างๆ จากคุณบี ได้รู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น และได้แรงบันดาลใจรวมถึงพลังงานดีๆ แบบที่เราได้รับมาเหมือนกัน

นอกจากนี้เรายังมีภาพถ่ายจากมุมมองของคุณบีมาให้ชมกันด้วย พาไปแอบดูมุมห้องทดลองเล็กๆ ของคุณบีที่เป็นเบื้องหลังเรื่องเล่าของเธอกัน

ติดตามคุณบีเพื่อชมเรื่องราวของพืชและสัตว์ในชีวิตประจำวัน และศึกษาธรรมชาติง่ายๆ ผ่านการวาดภาพได้ที่
Facebook | Tiktok | Youtube | Instagram

” ในบางที ภาษาก็เป็นกำแพงทำให้มนุษย์รู้สึกถูกแบ่งแยกจากกัน
แต่ก็ยังมีศิลปะกับธรรมชาติ ต้นไม้ และสัตว์อีกมากมาย ที่เชื่อมโยงมนุษย์เข้าด้วยกัน ”
– บี ชัญญกัญญ์

Art of: แนะนำตัวเองหน่อย

บี: ชื่อ บี ชัญญกัญญ์ สังปัญจภรกัญ ฉายา ‘เพื่อนๆ’ เพราะติดพูดคำว่า เพื่อนๆ ในคลิปเยอะมาก เป็นคนนนท์ (นนทบุรี) แต่ตอนนี้ย้ายมาต่างจังหวัดแล้วค่ะ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ฟรีแลนซ์ ทำคลิปวีดีโอ และชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เช่น ช่วงนี้กำลังเรียนรู้การทำคอนเทนต์ การใช้กล้อง และการฝึกทำคลิปค่ะ เริ่มทำคลิปเพราะอยากทำสิ่งที่ชอบและสร้างรายได้ได้ด้วย อยากลองแชร์เรื่องสร้างสรรค์บนสื่อออนไลน์

Art of: ปกติแล้วหาแรงบันดาลใจในการเล่าเรื่องต่างๆ จากไหนบ้าง

บี: มาจากสิ่งที่ชอบทำ เรื่องที่เจอในชีวิตประจำวันที่ทำให้ตื่นเต้นอยากรู้และเรื่องใหม่ๆ ที่สงสัย อยากรู้อยากลองส่วนใหญ่เกี่ยวกับธรรมชาติ ต้นไม้ สัตว์ และด้วยความที่เราเคยเป็นครูสอนเด็กเล็กมาก่อน ทำให้มองเห็นมุมมองของเด็กๆ ที่เข้าใจโลกแบบง่ายๆ ขี้สงสัย และตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว

Art of: กว่าจะมาเป็นเรื่องเล่าในคลิปหนึ่งได้ มีกระบวนการยังไงบ้าง

เริ่มจากเลือกเรื่องที่สนใจหรือบังเอิญเจอแล้วสนใจ ต่อมาก็กำหนดประเด็นที่จะสื่อสารกับคนดู ต้องคิดว่าคนดูจะได้อะไรจากการดูคลิปนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะติดมาจากสมัยเป็นครู ที่เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า ‘เด็กจะได้อะไร’

ต่อมาเราก็จินตนาการภาพในหัวว่าอยากเล่าเรื่องในวีดีโอแบบไหน จากนั้นก็ถ่ายวีดีโอ ตัดต่อ เลือกฉากที่ชอบ เรียงลำดับเรื่องราวเอามาต่อกัน จากนั้นก็พากย์เสียง เล่าประสบการณ์ ความรู้สึก ความสงสัย คำตอบ และสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นั้น ซึ่งเราติดใช้คำว่า ‘เพื่อนๆ’ ลงท้ายคลิปเยอะมาก

Art of: สังเกตว่าชอบวาดรูปมาก แสดงว่าเป็นนักวาดอยู่แล้วด้วยไหม มีประสบการณ์ยังไงบ้างเกี่ยวกับการวาดรูป

บี: ไม่ได้มีอาชีพเป็นนักวาด แต่ชอบวาดรูปตั้งแต่เด็กค่ะ เริ่มจากชอบอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นและคิดว่าภาพสวยสื่ออารมณ์จึงอยากวาดตาม ต่อมาชอบวาดเพื่อให้มีสมาธิเวลาเรียนมากขึ้น และวาดประกอบการเรียนให้เข้าใจง่ายเหมือนเวลาอ่านหนังสือภาพ

นอกจากนี้ก็วาดเพื่อบำบัดจิตใจ ระบายอารมณ์ด้านลบ โกรธ เหงา เศร้า ด้วยการขีดเส้นเยอะๆ แบบไม่กังวลว่าผิดหรือสวย เน้นไปที่การคลายเครียดมากกว่า สมัยเรียนชอบทำไดอารี่ เป็น scrapbook วาดรูปเขียนเรื่องราวที่ไปเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆ เคยไปนั่งวาดรูปลงกระเป๋าผ้าที่ตลาดรถไฟบ้างเพื่อหารายได้เสริม ดีใจที่คนทุกเพศวัย หลายชาติ สนใจศิลปะที่เราทำ

Art of: ช่วยเล่าถึงการวาดรูปต่างๆ ที่แทรกอยู่ในกระบวนการบันทึกหรือการเล่าเรื่องหน่อย คิดว่าการวาดรูปมีความสำคัญยังไงบ้าง

บี: ภาพจากเรื่องเล่าในคลิปเป็นการวาดรูปเพื่อจดบันทึกระหว่างการเรียนรู้ เราชอบจดอะไรเป็นภาพตั้งแต่สมัยเรียน เพราะ อ่านง่าย จำง่าย ชอบสื่ออารมณ์ความหมายด้วยภาพมากๆ บวกกับชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัวและชอบลองอะไรใหม่ๆ เลยเอาสองอย่างมารวมกันมาทำเป็นคลิปวีดีโอ

สมัยเป็นครูอนุบาล การวาดรูปสำหรับเราสำคัญมาก เพราะเป็นภาษาอีกอย่างที่ใช้สื่อสารกับเด็กเล็กที่ยังไม่ค่อยเข้าใจภาษา เราก็ต้องใช้ภาพเชื่อมโยงกับเสียงพูด เพื่อให้เด็กเข้าใจความหมาย เด็กก็จะเรียนรู้ผ่านศิลปะและการเล่น การวาดรูปช่วยให้สนุกกับการเรียนรู้ ทำให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้นาน สำหรับเด็ก ภาพวาดในนิทานก็ทำให้จำเรื่องราวความรู้สึกง่าย จำได้นาน เราก็ซึมซับการเรียนรู้แบบเด็กมาเรื่อยๆ การวาดรูปเลยเป็นภาษาที่คนทุกคนเข้าถึง เข้าใจได้ง่ายสบายๆ กระชับ เข้าใจตรงกัน แม้ไม่ต้องใช้คำซับซ้อน ทำให้คนรู้สึกสบายใจที่จะทำความเข้าใจและเรียนรู้ ช่วยเชื่อมโยงคนเข้าหากันได้

Art of: คิดว่าศิลปะกับธรรมชาติมีอะไรที่เชื่อมโยงกันบ้าง ทั้งสองอย่างสำคัญยังไงกับเรา

บี: ศิลปะกับธรรมชาติ ช่วยให้เราเห็นความจริงของชีวิต ว่าจริงๆ ชีวิตไม่ได้ยากและซับซ้อน เพียงแต่มันมีหลายสิ่งที่ให้เราเรียนรู้ที่จะยอมรับความเป็นธรรมดาของสิ่งต่างๆ ด้วยการมองเห็นทุกสิ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ มีความหลากหลายเหมือนศิลปะที่ไม่มีผิดถูก ทุกสิ่งนำเราไปสู่การเรียนรู้ในแง่ใหม่เสมอ ในบางทีที่ภาษาตัวอักษรเป็นกำแพงทำให้มนุษย์รู้สึกถูกแบ่งแยกกัน เกิดความเข้าใจผิด อคติ และความเกลียดชังจะเกิดขึ้นได้ง่าย แต่ก็ยังมีศิลปะกับธรรมชาติ ต้นไม้ และสัตว์อีกมากมาย ที่เชื่อมโยงมนุษย์เข้าด้วยกัน ช่วยเยียวยาจิตใจ ช่วยให้ผู้คนรู้สึกดีๆ ทำสิ่งดีๆ ต่อกันมากขึ้น

Art of: ถ้าเปรียบตัวเองเหมือนต้นไม้คิดว่าเหมือนต้นอะไรที่สุด เพราะอะไร

บี: ต้นดอกเดซี่ เพราะเป็นดอกไม้ที่เล็กๆ น่ารัก ฮ่าๆ สมัยเรียนเคยใช้นามปากกาเซ็นชื่อใต้ภาพวาดว่า daisybee เดซี่เป็นวัชพืชที่เกิดขึ้นง่ายได้หลายที่ เหมือนตัวเราที่กินง่าย อยู่ง่าย และอยากเป็นคนที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย มีความสุขง่ายๆ สบายๆ อยู่บนพื้นดิน ไม่ได้เป็นต้นไม้สูงแต่ได้เห็นผีเสื้อหลากหลายสวยงาม

Art of: ถ้าวาดตัวเองเป็นสัตว์ในจินตนาการจะเป็นยังไง

บี: เป็นก้อนกลมอนุภาคเล็กๆ มีตามองเห็น มีปีก พรางตัว หายตัวได้ วาร์ปไปเที่ยวดูที่ต่างๆ ได้ บินไปได้สุดจักรวาล ดำน้ำได้สุดก้นมหาสมุทร มีอิสระ มีกฎธรรมชาติเป็นของตัวเอง คอยแอบช่วยสัตว์ตัวเล็กๆ และสิ่งมีชีวิตอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ

Art of: มีอะไรที่อยากจะลองทำอีกไหมในอนาคต

บี: อยากทำหนังสือที่อ่านง่ายๆ รวมสิ่งที่ชอบทำและประโยชน์จากธรรมชาติรอบตัวในหลายๆ มิติว่าเอามาใช้ทำอะไรได้บ้างในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ กิน เล่น จนการนำไปใช้ เช่น เรื่องราวว่าทำไมต้นไม้นี้มาขึ้นที่นี่ มันมีเหตุผลเสมอ อย่างเช่น ‘ใบสาบแมว’ ที่กลิ่นช่วยไล่ยุง มักจะขึ้นเยอะในช่วงหน้าฝน และช่วงนั้นก็จะมียุงเยอะพอดี ธรรมชาติมีความลับและสอดคล้องกันเสมอ ต้นไม้เป็นเหมือนไอเท็มในเกมส์ที่รอเราไปพบว่า จริงๆ แล้วมันมีพลังวิเศษนะ

Art of: มีคนบอกว่าคุณบีดูมีความสุขจากสิ่งเรียบง่ายรอบตัว อยากบอกอะไรกับพวกเขาบ้าง

บี: แฮ็คชีวิตสำหรับเราคือ “ใช้ชีวิตอยู่กับการลงมือทำในโลกความจริง จะทำให้มีความสุขกว่าการอยู่ในโลกความคิดในหัว” ลองออกจากโลกความคิดที่จับต้องไม่ได้ มาอยู่กับสิ่งตรงหน้า สิ่งที่มือทำ ที่ตาเห็น ณ ขณะปัจจุบัน ถ้าทำต่อเนื่องได้เราจะมีความสุขแบบอัตโนมัติเลย เสพอะไรที่ทำให้มีความสุข ส่วนด้านลบเราก็เสพไว้ให้รู้ทันมีสติระวังตัว มองทุกอย่างมีประโยชน์และโทษ

หาอะไรสนุกๆ ทำ โอบรับสิ่งเล็กน้อยที่ทำให้ใจตื่นเต้น นึกย้อนกลับไปว่าเราเคยเป็นเด็กแบบไหน มีความสุขกับอะไร ลองหาเวลาว่างๆ ทำอีกครั้งดู ถ้าเราไม่มีอะไรสนใจเป็นพิเศษก็ไม่เป็นไร ใช้ชีวิตประจำวันแบบตั้งใจด้วยความรักและความสนุกก็ได้ เช่น เปิดสูตรทำอาหารที่อยากกิน ประดิษฐ์ของขวัญง่ายๆ ให้คนที่เรารัก อาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงได้สบายตัว รดน้ำให้ต้นไม้มีชีวิตอยู่ได้อย่างสดชื่น

ทำความสะอาดบ้านจัดบ้านในสไตล์ที่เราชอบให้เราได้ฟินใจทุกครั้งที่มอง นอนพักผ่อนชาร์จพลังชีวิตให้เต็มที่ ไม่ต้องยิ่งใหญ่แต่มีความสุขง่ายๆ กับการใช้ชีวิตไปวันๆ ของเรานี่แหละ สำหรับเรามันมีความหมายมากๆ

Art of: อยากฝากอะไรถึงคนอ่านบ้าง ทั้งคนที่ติดตามและยังไม่ได้ติดตามเรา

บี: ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคน ที่ติดตามรับชมคลิปวีดีโอ และเข้ามาอ่านบทความนี้ อยากจะบอกว่าในวันที่เครียด คิดมาก โกรธ เศร้า มีอารมณ์ด้านลบ ‘ไม่เป็นไรเลยเพื่อน’ มันก็คือส่วนนึงของธรรมชาติมนุษย์ ตัวเราเองก็ไม่ได้มีความสุขตลอดเวลา เวลาโกรธลองหายใจลึกๆ เดินไปจับใบไม้ มองท้องฟ้า มองสัตว์ตัวเล็กๆ มด กิ้งก่า นก สัตว์เลี้ยง จูนคลื่นความถี่เข้ากับธรรมชาติทำบ่อยๆ จินตนาการถึงสิ่งดีๆ บ่อยๆ แล้วสิ่งนั้นจะค่อยๆ เข้ามาหาเราอย่างไม่น่าเชื่อ

ขอให้เพื่อนๆ มีความสุข ชีวิตเราเกิดมาเพื่อสิ้นสุดในสักวัน เรื่องต่างๆในชีวิตเราจะผ่านไปและจบลง เราเกิดมาเพื่อเรียนรู้ รู้จักตัวเอง รักตัวเอง แบ่งปันความรัก แล้วเราจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข

เขียนและเรียบเรียงบทสัมภาษณ์โดย เบญญดา ถาวรเศรษฐ