พาไปชม Studio Tour – The Making of Harry Potter ที่โตเกียว ยิ่งใหญ่สมเป็นที่แรกในเอเชีย!

เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา แต่ก็ขึ้นแท่นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งใหม่ประจำโตเกียวไปแล้ว Art of ก็ไม่พลาดที่จะตามไปเก็บเบื้องหลังที่น่าสนใจจากงานสร้างของแฮร์รี่ พอตเตอร์ มาฝาก ให้ทั้งพอตเตอร์เฮดและมักเกิ้ลชาวไทยได้ดูกัน

สำหรับ Warner Bros. Studio Tour – The Making of Harry Potter นั้น เปิดสาขาแรกที่ลอนดอนไปตั้งแต่ปี 2012 โดยรวบรวมเอาฉาก, อุปกรณ์, และเสื้อผ้า ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ทั้ง 7+1 ภาคมาจัดแสดง โดยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนถึงปัจจุบันมีผู้เข้าชมไปแล้วกว่า 17 ล้านคน

มาในปี 2023 นี้ ทาง Warner Bros. จึงขยายมาฝั่งเอเชียกันบ้าง โดยเลือกญี่ปุ่นเป็นที่แรกเนื่องจากเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั้งเอเชียและทั่วโลก ประกอบกับได้ใช้พื้นที่ของสวนสนุก Toshimaen เดิม ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโตเกียว ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว indoor เกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สตูดิโอที่โตเกียวนี้ประกอบไปด้วยฉากต่างๆ ในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยทีมผู้สร้างตัวจริงได้ยกเซ็ทถ่ายทำจริงๆ และทำขึ้นใหม่บางส่วนด้วยกรรมวิธีแบบเดียวกับที่ใช้ตอนถ่ายทำ บอกได้เลยว่าอลังการมาก เพราะยกมาครบทั้งฮอกวอตส์, ป่าต้องห้าม, สถานีรถไฟคิงส์ครอส, ชานชาลาที่ 9 ¾, บ้านเดอร์สลีย์, กระทรวงเวทมนตร์ และตรอกไดแอกอน เดินได้ทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอน และบางส่วนก็ไม่มีที่สาขาลอนดอนและยังยิ่งใหญ่กว่าอีกด้วยเพราะเป็นการสร้างใหม่จึงได้มีการวางแผนพื้นที่ได้เหมาะเจาะ

โดยวันนี้เราจะขอพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรมที่เค้าขนมาแสดงแบบไม่มีกั๊ก กว่าจะออกมาแต่ละฉากในแต่ละภาคนั้นมีงานเบื้องหลังที่มีรายละเอียดน่าสนใจเยอะมาก ชนิดที่ดีไซน์เนอร์จะต้องว๊าวแน่นอน งานออกแบบฉากบางจุดที่เราคิดว่าใช้ CG ปรากฏว่าเป็นของจริงที่อ้างอิงมาจากสถานที่จริงต่างๆ มีการทำโมเดล เขียนแบบ เรียกได้ว่าคืองานออกแบบสถาปัตยกรรมดีๆ นี่เอง

นอกเหนือไปจากรายละเอียดฉากแล้ว ในพื้นที่จัดแสดงยังมีรายละเอียดอื่นๆ ทั้งงานแสง, สี, เสียง, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รวมไปถึงร้านอาหารและร้านขายสินค้าที่ระลึกที่สวยงามชนะเลิศ ซึ่งถ้าใครไปเที่ยวโตเกียว ก็ขอแนะนำให้แบ่งเวลาครึ่งวันถึงหนึ่งวันมาเที่ยวที่นี่ด้วยนะ

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมรวมถึงจองตั๋วได้ที่ Official website: https://www.wbstudiotour.jp/en/

ล็อบบี้
เข้ามาถึงจะเจอกับล็อบบี้กว้างๆ และจอฉายโปรเจคเตอร์ทรงโค้ง ที่ล้อมรอบตัวเราไว้ 300 องศา

ศูนย์อาหาร
บริเวณเดียวกับล็อบบี้ จะเป็นศูนย์อาหารที่จัดให้ดูเหมือนห้องโถงใหญ่ จุดนี้ใครที่มาตอนเช้าหรือเที่ยงแนะนำให้แวะเติมพลังให้เรียบร้อยก่อน เพราะต้องเดินอีกนานกว่าจะถึงร้านอาหารร้านต่อไป และเราขอเชียร์ให้แต่งตัวด้วยชุดคลุมฮอกวอตส์ได้เลย เพราะบรรยากาศได้มากๆ นักท่องเที่ยวประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมดก็แต่งกันเป็นปกติ

ห้องทำงานดัมเบิลดอร์
โมเดลและตัวอย่างแบบขยายของห้องทำงานศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ซึ่งในฉากจริงก็ดูขลังและอลังการมากๆ สมกับดีเทลที่เตรียมไว้ และที่น่าประทับใจคือพอยืนมองไปเรื่อยๆ เจ้าฟอกส์ นกฟินิกซ์ที่เกาะอยู่ที่คอนจะค่อยๆขยับทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งดูธรรมชาติมากๆ มองเพลินจนลืมไปเลยว่ามันเป็นแค่นกจำลอง

บันไดเวทมนตร์
บันไดในฮอกวอตส์ที่มักจะเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ (แค่ตามในภาพยนตร์ แต่ในหนังสือไม่เปลี่ยนนะ) รวมถึงรูปภาพบนกำแพงที่เดินไปเดินมาเปลี่ยนตำแหน่งอยู่เสมอ ก็มีการทำแบบ และวางตำแหน่งพร็อพเช่นกัน

บ้านโพรงกระต่าย
โมเดลที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเราที่สุดคือบ้านโพรงกระต่าย ด้วยโครงสร้างที่บิดๆ เบี้ยวๆ ชวนให้คิดว่ามันอยู่ได้ด้วยการรับน้ำหนักทางวิศวกรรมหรืออยู่ได้ด้วยเวทมนตร์กันนะ

ห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์ เทียบกับสาขาลอนดอนแล้วส่วนนี้ถือว่าอลังการกว่าพอสมควรเลย

ขั้นตอนการทำตราสัญลักษณ์ประจำบ้าน ที่ถึงจะทำขึ้นใหม่แต่ก็ต้องทำให้ดูเก่า จึงต้องมีกระบวนการเคลือบหลายครั้ง (อ่านจากขวาไปซ้าย จากสไตล์ญี่ปุ่น)

งานปั้นคิ้วบัวต่างๆในปราสาทก็เช่นกัน มีขั้นตอนวิธีการทำให้ดูอย่างชัดเจน

พร็อพที่ดูธรรมดาแต่ก็เห็นถึงการเก็บรายละเอียด กำแพงติดตั้งกฤษฎีกาการศึกษาที่ประกาศโดยอัมบริดจ์ โดยตัวอักษรในกรอบแต่ละชิ้นก็จะมีเนื้อหาแตกต่างกันไป

จุดที่งานพร็อพแน่นที่สุดคงหนีไม่พ้นห้องต้องประสงค์ ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กไปสักหน่อย แต่ด้วยการตกแต่งและความแน่นของของแต่ละชิ้น ทำให้เป็นห้องที่ต้องกดชัดเตอร์ถ่ายรูปมาเยอะเป็นอันดับต้นๆ

หนึ่งในห้องที่ดูดีมากคือห้องทำงานของสเนป ที่เต็มไปด้วยเครื่องปรุงและอุปกรณ์แปลกๆสำหรับการปรุงยา

ส่วนของห้องสมุดก็เป็นห้องจำลอง มีชั้นหนังสือไม่กี่แถวแต่มีการจัดเตรียมที่นั่งให้ผู้ชมสามารถนั่งถ่ายรูปได้ บรรยากาศอึมครึมเหมาะกับการมาแอบงีบของนักเรียน

ป่าต้องห้าม
เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำได้ดีมากๆ เนื่องจากเราจะรู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในป่าจริงๆ ทั้งๆ ที่กำลังเดินอยู่ภายในอาคาร เริ่มตั้งแต่พื้น ที่จะเป็นวัสดุนุ่มๆ เหมือนเหยียบดินและเศษใบไม้ มีต้นไม้สูงชะลูดขนาดใหญ่เรียงราย และได้เจอกับซีนต่างๆทั้งรถฟอร์ดแองเกลียร์สีฟ้าที่บินได้ของนายวีสลีย์ สัตว์วิเศษ เช่น เซ็นทอร์ อาราก็อก รวมถึงเราสามารถเดินไปจนถึงซีนริมทะเลสาปและได้ลองเสกคาถาผู้พิทักษ์เพื่อขับไล่ผู้คุมวิญญาณจากจุดนี้ด้วย

และที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ฉากสถานีรถไฟคิงส์ครอส รวมถึงหัวรถจักรสีแดงพ่นไอน้ำ ที่ไม่ได้เห็นแค่ภายนอกเท่านั้น แต่ยังมีตู้โดยสารภายในให้ได้เดินผ่านเสมือนว่าเราเป็นเพื่อนนักเรียนคนหนึ่ง

รถเมล์อัศวินราตรี จัดแสดงอยู่ส่วน outdoor แต่ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้

นอกจากรถเมล์แล้ว ส่วนของ outdoor จะมี บ้านเลขที่ 4 ซอยพรีเว็ต ของครอบครัวเดอร์สลีย์ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งสามารถเดินเข้าไปชมด้านในได้(เฉพาะชั้น 1) ที่ประทับใจสุดๆ ก็คือห้องนั่งเล่นที่จำลองฉากจดหมายจากฮอกวอตส์จำนวนมากปลิวเต็มห้องนี่แหละ ดูมีไดนามิกเหมือนขยับได้เลยทั้งที่ของจริงกระดาษแต่ละแผ่นนั้นลอยอยู่นิ่งๆ

ปิดท้ายด้วย ส่วนโชว์อุปกรณ์ควิดดิช ที่มาครอบทั้งเสื้อผ้า ไม้กวาด และลูกบอลที่ใช้ในการแข่งขัน ในส่วนนี้ออกแบบได้สวยงามกลมกลืน ทำเอาเราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมเลยล่ะ ซึ่งทางสตูดิโอมียูนิฟอร์มควิดดิชของทุกบ้านและไม้กวาดจำลองขายที่ร้านขายของตรงทางออก บอกเลยว่าเตรียมเงินไปให้พร้อม เพราะสินค้าที่นี่ดูดีกว่าในสวนสนุกทั่วไปพอสมควร

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมรวมถึงจองตั๋วได้ที่
Official website: https://www.wbstudiotour.jp/en/

Warner Bros. Studio Tour Tokyo – The Making of Harry Potter
ที่อยู่: 1 Chome-1-7 Kasugacho, Nerima City, Tokyo 179-0074, Japan สถานีรถไฟ Toshimaen Station
เวลาเปิด: 08:30 – 22:00 ทุกวัน (ต้องจองตั๋วล่วงหน้าเท่านั้น)