336Views

Googie Architecture สถาปัตยกรรมสุดล้ำที่ยังคงโลดแล่นใน Pop Culture
หลายคนน่าจะเคยเห็นสถาปัตยกรรมที่สไตล์อวกาศจัดๆ ดูโค้งๆ คานยื่นเยอะๆ กันบ้าง ในการ์ตูน The Jetsons, อาคาร Tomorrowland ของ Disney และล่าสุดก็คือ Baxter Building ใน The Fantastic Four 2025 แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วสไตล์นี้มีชื่อเรียก และมีที่มาที่ไปของรูปทรงต่างๆ อีกด้วย
Googie Architecture เป็นชื่อสไตล์สถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยเส้นสายล้ำยุค เรื่องราวของมันไม่ได้มีเพียงแค่รูปทรงแปลกตา แต่ยังสะท้อนความหวังของผู้คนที่มองอนาคตข้างหน้าในช่วงเวลาหลังสงครามโลกอีกด้วย
โดย Art of จะมาเล่าถึง จุดกำเนิดและที่มาของชื่อ Googie, แรงบันดาลใจ, ตัวอย่างผลงานของสไตล์นี้ และอิทธิพลที่แทรกซึมใน Pop Culture จนถึงปัจจุบัน
ต้นกำเนิดสไตล์และชื่อ Googie

ชื่อ “Googie” มาจากร้าน Googie’s Coffee Shop ในลอสแอนเจลิส ซึ่งสถาปนิก John Lautner ออกแบบใหม่ในปี 1949 ตัวอาคารใช้โครงสร้างและเส้นสายที่ดูล้ำยุค เน้นการมองเห็นได้จากระยะไกล และคำว่า Googie จริงๆ มาจากชื่อเล่นของภรรยาเจ้าของร้านนั่นเอง
ซึ่งชื่อนี้จะไม่กลายเป็นชื่อสไตล์เลย ถ้าไม่ถูกเขียนถึงในปี 1952 โดย Douglas Haskell บรรณาธิการนิตยสาร House and Home ที่ได้มาเห็นร้านนี้และกล่าวว่านี่คือสไตล์ใหม่ที่ยังไม่มีชื่อ เขาจึงตั้งชื่อ “Googie Architecture” ตามชื่อร้าน และคำนี้ก็ถูกใช้แพร่หลายจนกลายเป็นศัพท์ทางสถาปัตยกรรมไปแล้ว และว่ากันว่า เขาเรียกชื่อนี้ด้วยความประชดประชันผสมเหน็บแนมเล็กน้อยว่า “It’s too bad that our tastes are horrible, but at least they have made men free” หรือ แม้ Googie จะถูกมองว่าฉูดฉาดไร้รสนิยม แต่ก็สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และเสรีภาพของนักออกแบบยุคหลังสงครามโลก
เหล่าสถาปัตยกรรมสไตล์ Googie เกิดขึ้นในยุคที่อเมริกา เพิ่งผ่านช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่และสงครามโลกครั้งที่ 2 และสไตล์นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมยุค Mid-century Modern โดยได้รับแรงบันดาลใจจากยุค Space Age, Atomic Age และ Car culture ที่เฟื่องฟูในอเมริกาหลังสงครามโลก
Googie Architecture เป็นสถาปัตยกรรมอเมริกันที่เกิดขึ้นในแถบเมืองลอสแอนเจลิส ในช่วงปลายปี 1940 ไปจนถึงต้นทศวรรษ 1970 มีความโดดเด่นด้วยเส้นสายโครงสร้างที่ดูพลังและมีความโฉบเฉี่ยว เช่น หลังคารูปปีกยกสูง, คานยื่น (cantilever) ที่ดูท้าทายแรงโน้มถ่วงเหมือนจะอยู่ไม่ได้จริง มีแผ่นโครงสร้างบางโค้งมน (thin shell) และป้ายขนาดใหญ่ ไฟนีออนสีสดใสที่ดึงดูดสายตามาก
อิทธิพลและตัวอย่างงานสถาปัตยกรรม

Googie เติบโตควบคู่ไปกับ Space Age และ Atomic Age ในช่วงปี 1950 – 1960 ที่ทั้งโลกเริ่มหมกมุ่นกับการสำรวจอวกาศ เครื่องเจ็ต โทรทัศน์ และพลังงานนิวเคลียร์ สไตล์ Googie จึงมีรูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจจากจรวด ดาวเทียม และปีกเครื่องบิน
Googie สะท้อน “ความฝันถึงอนาคต” (Retro-futurism) และความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของสังคมคนอเมริกันยุคนั้น นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการสร้างถนนที่มากขึ้น และความเฟื่องฟูของวงการรถยนต์ในอเมริกา จึงมักจะพบสไตล์นี้ในการออกแบบสถาปัตยกรรมเชิงพาณิชย์ที่ต้องการดึงดูดความสนใจเวลาที่คนขับรถผ่าน เช่น ร้านกาแฟ ปั๊มน้ำมัน โรงแรม และอาคารสาธารณะ
ตัวอย่างสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากสไตล์ Googie เช่น

“LAX Theme Building (1961)” อาคารสนามบินลอสแอนเจลิส ที่มีรูปทรงคล้ายยานอวกาศขนาดยักษ์ ลอยตัวเหนือพื้นด้วยโครงเหล็กโค้งยักษ์ ”

“Space Needle (1962)” ตึกระฟ้าใน Seaattle ที่เป็นแรงบันดาลใจในเรื่อง Final Destination: Bloodline

และ Norms Restaurant (1957) ร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมงในลอสแอนเจลิส โดยมีป้ายตัวอักษรใหญ่แบบโมเดิร์นที่เด่นมากๆ

มีช่วงเวลาหนึ่งที่งานออกแบบ สไตล์ Googie ถูกรื้อถอนออกไปจำนวนมาก เพราะผู้คนมองว่าส่วนใหญ่เป็นอาคารตามข้างทาง ดูไม่สำคัญ แต่ภายหลังก็มีองค์กรที่ออกมาปกป้องสถาปัตยกรรมเหล่านี้ด้วย จึงมีหลายอาคารที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ เช่น Norms Restaurant และร้าน McDonald’s ที่เก่าแก่ที่สุดที่อยู่ในเมือง Downey (ตอนนี้กลายเป็นทั้งร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์)
อิทธิพลต่อ Pop Culture
Googie กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “โลกอนาคตในจินตนาการยุค 50s–60s” จนถูกนำไปใช้ซ้ำในงานบันเทิงหลายรูปแบบเพื่อสื่อถึงความรู้สึกแบบ retro-futurism เช่น


The Jetsons (1962)
สถาปัตยกรรมใน The Jetsons มาจากแรงบันดาลใจลึก ๆ จากอาคาร Mid-century Modern และ Googie ในแถบลอสแอนเจลิส โดยเฉพาะ Tomorrowland, Theme Building, และ Chemosphere (บ้านทรง UFO) ของ John Lautner อีกทั้งยังมีกระแสว่า Space Needle คือแรงบันดาลใจให้เกิด “skypad apartments” ในการ์ตูนด้วย


Tomorrowland (ทั้งใน Disneyland และภาพยนตร์ปี 2015) ที่ดึงเสน่ห์ของ Googie มาสร้างภาพฝันแห่งอนาคต ซึ่งส่วนหนึ่งมีแรงบันดาลใจจากงานของ Walt Disney เอง ใน World’s Fair ปี 1964 ที่ New York

Fantastic Four (2025) Baxter Building ออกแบบให้มีโทนสีน้ำเงินวินเทจและรูปทรงโค้งที่สะท้อน Googie เพื่อสื่อถึงยุคทองของวิทยาศาสตร์
source:
Chokhachian, Ata. (2014). CRITICAL ATTITUDE TOWARD THE FOOTSTEP OF GOOGIE ARCHITECTURE ON PARAMETRIC ARCHITECTURE.
Oakley, D.J.. (2025). Structuring Googie: How early 20th century developments in structural forms and materials helped shape a unique subset of US mid-century modern architecture. 10.1201/9781003658641-178.
Hess, A. (2004) Googie Redux: Ultramodern Roadside Architecture. San Francisco: Chronicle Books. ISBN 9780811842721.
Friedlander, W. (2008) ‘Go on a SoCal hunt for Googie architecture’, Los Angeles Times, 18 May. Available at: https://www.latimes.com/archives/la-xpm-2008-may-18-tr-googie18-story.html (Accessed: 14 August 2025).
Water and Power Associates (n.d.) Theme Building – LAX. Available at: https://waterandpower.org/Museum2/Theme_Building_LAX.html (Accessed: 18 August 2025).
Fritz Freiheit (2018) Jetsons architecture gallery. Available at: https://fritzfreiheit.com/wiki/Jetsons_architecture_gallery (Accessed: 18 August 2025).
Los Angeles Conservancy (n.d.) McDonald’s Hamburgers (Downey). Available at: https://www.laconservancy.org/learn/historic-places/mcdonalds-hamburgers/ (Accessed: 18 August 2025).