เผยเบื้องหลัง Costume Design ใน DUNE

ในงานประกาศรางวัล Oscar ที่ผ่านมา หนึ่งในภาพยนตร์ที่น่าจับตาที่สุดก็คือ ‘Dune’ นั่นเองที่กวาดรางวัลไปถึง 6 สาขา โดยในวันนี้เราจะมาพูดถึง Costume Design หรือ การออกแบบเครื่องแต่งกาย ในเรื่อง ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง และถึงแม้จะไม่ได้รับรางวัล แต่บอกเลยว่าเรื่องราวทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของเครื่องแต่งกายในเรื่องนั้นไม่ธรรมดา

‘Dune’ นั้นไม่ใช่เพียงภาพยนตร์โลกอนาคตทั่วๆ ไป แต่เป็นมหากาพย์ระดับตำนานของวงการหนังสือและภาพยนตร์ ทั้ง Star Wars และ Mad Max ก็ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Dune ทั้งสิ้น โดยหนังสือนั้นแต่งโดย Frank Herbert ตั้งแต่ปี 1965 ผู้คนต่างพากันยกย่องเพราะมันเต็มไปด้วยเรื่องราวทั้ง Sci-fi โลกอนาคต การเมือง ศาสนาและปรัชญาที่เข้มข้นมากๆ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูก Remake มาหลายต่อหลายรอบ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เป็นที่เลื่องลือกันว่าเรื่องนี้ไม่ควรนำมาสร้างอีก จนกระทั่ง Denis Villeneuve ผู้กำกับที่เป็นแฟนเดนตายของหนังสือนี้ได้นำมันกลับมาสร้างอีกครั้ง และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Dune 2021 นี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แม้จะฉายไปเพียงภาคแรกเท่านั้น!

เนื่องจากองค์ประกอบการสร้างหนังเรื่องนี้มีหลายอย่างมาก วันนี้ทาง Art of ได้เลือก Costume Design เพื่อมาพูดถึงกัน ซึ่งทีมผู้ออกแบบนำโดย Jacqueline West และ Robert Morgan ที่ต้องออกแบบชุดกว่า 400 ชุดเป็นพิเศษ และผลิตชุดกว่า 2000 ชุด โดยสำหรับทีมออกแบบแล้ว เครื่องแต่งกายในเรื่องก็เหมือนจุดเชื่อมโยงนักแสดงไปสู่ตัวละคร และทำให้หนังสมบูรณ์ จะมีประเด็นเบื้องหลังอะไรบ้างที่น่าสนใจ ลองไปอ่านกัน!

1. ย้อนกลับสู่อดีต ในอีก 10,000 ปี

เหตุผลหลักที่ Jacqueline นั้นถูกเลือกให้เป็นผู้ออกแบบ Costume ตั้งแต่แรกนั้น เป็นเพราะเธอไม่เคยออกแบบให้หนัง sci-fi มาก่อนเลย Denis ผู้กำกับ ไม่ต้องการให้ชุดออกมาเหมือนชุดในหนัง sci-fi ทั่วๆไป เขาชื่นชอบชุดในหนังย้อนยุคต่างๆ ที่เธอออกแบบมาก

โลกของ Dune นั้นเกิดขึ้น 10,000 ข้างหน้าในโลกอนาคต ที่เทคโนโลยีล้ำหน้าและดิ่งลงจนไปถึงจุดจบของ AI และคอมพิวเตอร์ ถึงแม้จะยังมีเครื่องจักรอยู่ แต่สไตล์เสื้อผ้าต่างๆ กลับย้อนไปในยุครุ่งเรื่องในอดีต ไม่ว่าจะเป็นยุค Medieval ในยุโรป หรือ Romanovs ในรัสเซีย เสื้อผ้าหลายชิ้นกลับไปมีความอ่อนโยนพริ้วไหวและละเอียดอ่อน เหมือนย้อนกลับไปอดีต

2. Stillsuit

Stillsuit นั้นเป็นเหมือนหัวใจของหนัง เป็นชุดหลักที่เหล่า Fremen ใส่ ตามท้องเรื่องนั้นชุดนี้สามารถหมุนเวียนของเหลวในร่างกายนำมาใช้ได้ใหม่ และช่วยให้ผู้ใส่อยู่รอดในสภาพอากาศอันเลวร้ายที่ดาว Arrakis โดยผู้ออกแบบคำนึงถึงการใช้งานเป็นอย่างมาก เพราะนักแสดงต้องใช้งานได้สะดวกและถ่ายทำในสถานที่ที่อากาศโหดร้าย แต่ในขณะเดียวกันชุดก็ต้องดูงดงามอีกด้วย แต่ละชุดนั้นถูกหล่อขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับสรีระของนักแสดงแต่ละคน ทั้งเครื่องหัว รองเท้าและถุงมือ

3. The Atreides

ดาว Caladan ที่ House Atreides อยู่นั้น เป็นดาวสีเขียวที่เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นและต้นไม้ ตรงข้ามกับดาว Arrakis ที่เป็นทะเลทราย ชุดของราชวงศ์ House Atreides นั้นมีแรงบันดาลใจมาจาก Romanovs ของรัสเซียด้วยเรื่องราวของราชวงศ์ที่ล่มสลายเหมือนกัน ทำให้ชุดของพวกเขามีความเนี๊ยบกริบ ไร้กระดุมแต่ใช้เป็นแม่เหล็กแทน ผู้ออกแบบตั้งใจให้ในอนาคต กระดุมนั้นไม่ถูกใช้แล้ว

4. The Harkonnens

ผู้ออกแบบตั้งใจให้เหล่า Harkonnens นั้นเป็นตัวร้ายที่ดูมืดหม่น แต่มีมิติเช่นสไตล์ Medieval Monk อีกทั้งยังแฝงรายละเอียดของแมลง เช่น เครื่องหัวนั้นดูเหมือนกับหัวของมด และพื้นผิวปั๊มลายบนหนังที่คล้ายกับแมงมุม ชุดของ Baron หัวหน้าตัวร้ายในภาคนี้ ใส่ชุดที่เรียบง่าย บางเบา แต่ดูมีพลัง และยังมีความ feminine ที่ดูพริ้วไหวอีกด้วย

4. Paul Atreides

ตัวละคร Paul นั้นมีพัฒนาการการแต่งตัวที่หลากหลาย ตั้งแต่ชุดที่ใส่ในพระราชวังที่แสดงถึงศักดินา ชุดมีแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง Zhivago อันไร้กระดุมมินิมอล ไปจนถึงชุด Stillsuit ที่เขาได้ใส่จนได้เป็นผู้นำของกลุ่มในที่สุด และเติมด้วยความเป็นตะวันออกกลางแบบหนังเรื่อง Lawrence of Arabia ด้วยผ้าคลุมต่างๆ ที่ช่วยพรางตัวในทะเลทราย

5. Lady Jessica

Lady Jessica เป็นมารดาของ Paul Atreides ชุดของเธอ นั้นเรียกได้ว่ามีรายละเอียดที่อ่อนช้อยและพิถีพิถันทุกชุด นอกจากหลายชุดที่มีแรงบันดาลใจมาจาก Medieval แล้ว บางชุดยังมีแรงบันดาลใจมาจากแบรนด์ Couture ต่างๆ เช่น Balenciaga, Dior และ Schiaparelli อีกด้วย

ด้วยเชื้อสายลึกลับของเธอ ทำให้ทีมตั้งใจออกแบบให้ชุดมีผ้าคลุมหน้า คล้ายกับเธอตั้งใจพินิจสิ่งรอบตัวอย่างลับๆ อยู่เสมอภายในผ้าคลุมนั้น นอกจากนี้หลายๆ ลุคของเธอยังคล้ายกับลุคขอ แพดเม่ ใน Star Wars อีกด้วย ซึ่งถือว่าไม่น่าแปลกใจ เพราะ Dune ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ Star Wars เช่นกัน

ชุดสายโซ่อันเลื่องลือของ Lady Jessica ที่มีแรงบันดาลใจมาจากยุค Medieval นั้นใช้เวลาทำอยู่หลายเดือนและราคาแพงหูฉี่ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะแต่ละเส้นสายนั้นถูกร้อยเรียงให้เหมาะเจาะกับเรือนร่างและโครงหน้าอย่างตั้งใจ