กว่าจะมาเป็นพระจันทร์ฤดูร้อนของ ‘meanapas.c’ ! เบื้องหลังความร้อนระอุทะลุ 40 ดีกรีบนขวด ‘แสงโสม’

ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ไม่สามารถหยุดความคิดสร้างสรรค์ของเหล่าศิลปินไทยได้ ! จนแบรนด์ที่ให้คุณค่ากับงานอาร์ตอยู่เสมออย่าง SangSom เลยขอเปลี่ยนพื้นที่ ‘ขวด’ ให้เป็นผืนผ้าใบ เปิดพื้นที่ให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้ถ่ายทอดฝีมือกันซะเลย !

เกิดเป็นโปรเจกต์การออกแบบขวดใหม่ลาย ‘พระจันทร์ 4 ฤดู’ ให้ 4 ฟีลลิ่งที่ทั้งแตกต่างและมีเอกลักษณ์ จากไอเดียเส้นสายของ 4 ศิลปินไทย ถ่ายทอดลงบน ‘ขวดแสงโสม’ โดยวันนี้อยากชวนไปพูดคุยกับหนึ่งใน 4 ศิลปินของโปรเจกต์ ที่รับหน้าที่ออกแบบลาย ‘พระจันทร์ฤดูร้อน’ อย่าง meanapas.c ศิลปินที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้ จนได้ร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่เป็นครั้งแรก !

เบื้องหลังผลงานนั้นมีกระบวนการออกแบบยังไง ? หรือการร่วมงานกับแสงโสมในครั้งนี้มีโมเมนต์อะไรที่น่าประทับใจบ้าง ? ตามมาอ่านไปพร้อมกันได้เลย

4 Seasons of the Moon Art Pack

หากใครอยู่ในแวดวงสายอาร์ต สายปาร์ตี้ หรือเป็นคนรักในเครื่องดื่ม ในช่วงหลายปีมานี้น่าจะได้เห็นโปรเจกต์สนุกๆ มากมายจาก SangSom เช่น ‘SangSom MOONLAB’ งานนิทรรศการอาร์ตและคอนเสิร์ตที่มี ‘พระจันทร์’ เป็นพระเอกของงาน

แต่ปีนี้แสงโสมยังคงยกระดับความอาร์ตและความสนุกแบบไม่หยุด เปิดโอกาสและให้พื้นที่ศิลปินแบบจัดเต็มเหมือนเดิม ชวน 4 ศิลปินไทยหยิบเอาธีมหลักคือการเล่นกับพระจันทร์ 4 ฤดู มาถ่ายทอดลงในทุกๆ การสื่อสาร โดยเฉพาะพื้นที่บน ‘ขวดแสงโสม’ จนเกิดเป็นโปรเจกต์การออกแบบ ‘4 Seasons of the Moon Art Pack’ ถ่ายทอดลวดลาย 4 ฤดูคือ Spring Moon, Winter Moon, Rainy Moon และ Summer Moon ที่ใครๆ ก็เก็บไปสะสมได้

โดยวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกการออกแบบ ‘Summer Moon’ พระจันทร์ฤดูร้อนของ ‘meanapas.c’

(Part-time) Artist ผู้ไม่เคยหยุดเรียนรู้

‘meanapas.c’ คือชื่อนามปากกาของ ‘คุณมีน – นภัส จันทร์แสง’ ที่มาจากชื่อเล่น, ชื่อจริง และอักษรตัวแรกของนามสกุล มีความชื่นชอบในศิลปะ และเลือกเดินทางที่เกี่ยวข้องกับสายอาร์ตมาตั้งแต่สมัยเรียน

เริ่มจากปริญญาตรีที่จบเอกครูศิลปะ (Art Education) จาก มศว แต่แน่นอนว่าด้วยปัจจัยที่ต้องดำรงชีพ ในช่วงเริ่มต้นของศิลปินหลายคนก็ต้องทำงานไปด้วย แต่คุณมีนมองว่านี่คือโอกาสที่จะได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนยังขาด ใช้ความรู้และทักษะจากงานประจำมาพัฒนาการทำงานศิลปะของตนเอง

จึงเริ่มต้นด้วยการเป็น Project Coordinator ของบริษัทสาย Art&Design เพื่อเรียนรู้ทั้งงานออกแบบ, งานโปรดักชัน ต่อด้วยงานสาย Management เพื่อเรียนรู้เรื่องการจัดการ ส่วนทักษะในร่างศิลปิน meanapas.c ก็จะใช้เวลาหลังเลิกงาน หรือวันเสาร์-อาทิตย์

แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังคงเป็น Freelance Illustrator/Artist ที่เป็นพนักงานออฟฟิศควบคู่ไปด้วย และยังคงเรียนรู้ เปิดรับสิ่งต่างๆ รอบตัว มองหาโอกาสที่จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อต่อยอดการไปสู่การเติบโตในเส้นทางสายศิลปะในอนาคต

“I am a Learner.”
จึงกลายเป็นคำที่ใช้นิยามตัวของ meanapas.c

สไตล์งานที่เน้นความเรียบง่าย แต่ต้อง ‘สื่อสาร’

ด้วยความที่เป็นคนชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สไตล์งาน และแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานจึงค่อยๆ พัฒนาตามทักษะ และประสบการณ์ที่ค่อยๆ สั่งสมและเรียนรู้ เริ่มจากงาน Hand-painted ลงบนกระดาษ หยิบเอาธรรมชาติ ดอกไม้ และสิ่งของรอบตัวมาเป็นแรงบันดาลใจ transform และเล่าใหม่แบบน่ารักๆ เช่นงาน Alphabet Design จากดอกไม้ หรือจานดอกไม้ไทย

และค่อยๆ ก้าวข้ามมิติของความสวยงาม ไปสู่การตีความงานให้มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น หยิบเอาสิ่งที่เป็นนามธรรมมาเป็นแรงบันดาลใจ เช่นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน โดยให้ความสำคัญกับคอนเซ็ปต์ และเรื่องราวที่ต้องการสื่อสาร อีกทั้งยังค่อยลดทอน Process ในการทำงานให้มีความเรียบง่ายที่สุด เพื่อมองหาแก่นแท้ว่าจะทำอย่างไรให้สื่อสารสิ่งที่อยากเล่า ผ่านออกมาในผลงานได้แข็งแรงที่สุดนั่นเอง

ฉายภาพ ‘Summer Moon’ ในช่วงเวลาร้อนระอุเดือดทะลุ 40 ดีกรี

โจทย์ฤดูที่คุณมีนได้รับจากแสงโสมคือ ‘Summer Moon’ โดยสิ่งแรกที่เด้งขึ้นมาในหัวก็คือ ภาพสีส้ม-แดงที่สะท้อนความสนุกสดใส พร้อมคำถามที่ว่า

“ที่ว่าร้อนสุดๆ ของเมืองไทย
นี่มันร้อนขนาดไหนกันนะ ?”

ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราไปค้นดูก็คงเจอพาดหัวข่าวมากมายที่ว่า “เมืองไทยร้อนทะลุ 40 องศา” จึงปิ๊งไอเดียในทันที ว่าความร้อนระอุแบบ 40 degrees Celsius ก็ไม่ต่างอะไรกับความเร่าร้อนจากความเข้มข้น 40 ดีกรีของแสงโสม

นั่นจึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ ‘The 40 degrees’ คลื่นความร้อนที่จะปกคลุมไปในทุกพื้นที่ของเมืองไทย ด้วยสีสันสุดร้อนแรงภายใต้แสงจันทร์ ซึ่งเมื่อตีความกลับมาเป็น Visual ก็คงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าการสื่อสารผ่านภาพของ ‘Heatmap’ ที่ทุกคนเห็นภาพแล้วเข้าใจได้ในทันที !

ความพอดีของการใช้สี คือเคล็ดลับของ Heatmap

ด้วยความที่ ‘สี’ เป็นสิ่งที่สร้างความรู้สึกให้ได้ง่ายในเวลาอันสั้น สำหรับการออกแบบในโจทย์ฤดูร้อน จึงค่อนข้างชัดเจนว่าภาพรวมสีที่ออกมาคงจะออกไปใน ‘โทนร้อน’

ความท้าทายจึงอยู่ที่การใช้สีเหลือง-ส้ม-แดง อย่างไรให้คนไม่รู้สึกเบื่อ โดยเทคนิคแรกของคุณมีนคือการหาสมดุลของ ค่าน้ำหนักเข้ม-อ่อน (Value) ของสีให้อยู่ในสัดส่วนที่พอดี แล้วจึงหาวิธีหยิบเอาสีโทนเย็นหรือสีอื่นๆ ที่เข้ากันเข้ามาเบรคอารมณ์ เช่น สีฟ้า, สีม่วง, สีชมพู magenta ที่มาช่วยเพิ่มความรู้สึกถึงปาร์ตี้และความสนุกสนาน

ในขณะที่ดวงจันทร์ก็ทำให้ดูโดนเด่นขึ้นมาโดยใช้สีม่วงอ่อน และดูสงบ เคลิบเคลิ้มแบบดวงจันทร์ยามค่ำคืนฤดูร้อน

3 สิ่งที่ต้อง ‘หา’ คือ 3 ขั้นตอนการทำงานของ meanapas.c

ด้วยประสบการณ์ทั้งจากการเป็นศิลปิน และแง่มุมการทำงาน Management ทำให้คุณมีนได้ตกผลึกออกมาเป็น 3 ขั้นตอนที่ใช้เป็นหลักยึดในการทำงานอยู่เสมอ เพื่อให้การทำงานทั้งราบรื่น และตอบโจทย์ นั่นคือ

หาความต้องการ (ตีความโจทย์): สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนเริ่มงานทุกอย่างคือการ ‘ตีความโจทย์’ เพราะนี่คือการทำความเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เช่น แนวคิด, การนำไปใช้, กลุ่มเป้าหมายจริงๆ ของลูกค้าคือใคร, อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ลูกค้าต้องการสื่อสาร
การทำความเข้าใจนี้เหมือนเป็นการตีเส้นให้เราเห็นปลายทางของการใช้งานว่าเราควรจะทำงานแบบไหนให้ตอบโจทย์ เช่น ลวดลาย Summer Moon นี้จะมีการนำไปแสดงผลบน Placement ที่มีขนาดแตกต่างหลากหลาย เราจะทำยังไงให้มันสวยในทุกรูปแบบการใช้งาน
หาไอเดีย: ขั้นตอนหาไอเดีย คุณมีนแนะนำให้มองแยกเป็น 2 ส่วนคือ ‘Concept’ ให้มองภาพกว้างๆ โดยเริ่มต้นคิดจากการลิสต์ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับโจทย์ออกมาให้มากที่สุดทั้งทางตรงและทางอ้อม เหมือนกับที่คุณมีนลิสต์ Keyword ที่น่าสนใจจนไปเจอ ‘40 ดีกรี’
จากนั้นค่อยคัดกรองเลือกคำที่น่าสนใจ มาคิดต่อยอดเป็น ‘Visual’ ว่าสไตล์ไหนที่น่าจะเหมาะกับไอเดียนี้ และที่สำคัญคือต้องเหมาะกับแบรนด์ของลูกค้า ตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ ‘The 40 degrees’ ให้ออกมาเป็นภาพ Heatmap ที่ใครๆ ก็เข้าใจได้ง่าย
หาวิธีสื่อสาร: หลังจากเราได้ไอเดียที่แข็งแรง แต่ถ้าลูกค้าหรือคนทั่วไปไม่เข้าใจก็ไร้ความหมาย คุณมีนจึงแนะนำให้หาวิธีสื่อสาร Key Concept ของเราให้เข้าใจได้ง่ายแบบเป็นสากลที่สุด ด้วยการหยิบเอาองค์ประกอบต่างๆ มาเป็นตัวช่วยเช่น Symbol, Object หรือสี
แล้วจึงใช้ Art Style ความชอบส่วนตัวของเราผสมเข้าไป เพื่อช่วยทำให้ผลงานนั้นสวยงาม พร้อมทั้งสอดแทรกเอกลักษณ์ของตัวเราลงไป เหมือนกับที่ออกมาเป็นผลงาน Summer Moon ด้วยการหาสมดุลของสีโทนร้อนต่างๆ นั่นเอง

ความท้าทายใหม่ๆ ในการทำงานกับ ‘แบรนด์’

คุณมีนเล่าถึงความท้าทายใหญ่ที่สุดในการทำโปรเจกต์นี้ว่าคือ ‘การต่อสู้กับตัวเอง’ เพราะการร่วมงานกับแสงโสมในโปรเจกต์นี้ คืองานคอลแลบฯ กับแบรนด์ใหญ่ครั้งแรก ! จึงเต็มไปด้วยความกังวล ซึ่งคำแนะนำง่ายๆ จากคุณมีนก็คือ ทำความการเข้าใจโจทย์ของแบรนด์ให้ชัดเจน หาว่าแบรนด์กำลังอยากจะสื่อสารอะไร ยึดโจทย์ของลูกค้าเป็นสำคัญก็จะช่วยให้เราทำงานตาม process ไปได้จนจบ

เมื่อ ‘ขวด’ กลายเป็นผืนผ้าใบ

อีกหนึ่งความท้าทายใหญ่ของโปรเจกต์นี้ก็คือ ผลงานจะถูกนำไปใช้ในหลากหลาย Format ทั้งจอในนิทรรศการ, ของที่ระลึก, สื่อต่างๆ และอีกหนึ่งจุดที่ขาดไม่ได้ก็คือบรรจุภัณฑ์ ‘ขวดแสงโสม’ ทำให้ศิลปินจากที่ต้องวาดบนกระดาษหรือหน้าจอ มาสู่ Form Factor ที่เป็น ‘ขวด’ คุณมีนจึงต้องคิดให้รอบด้าน และมองงานให้เป็น 3 มิติมากยิ่งขึ้น เมื่อนำไป wrap รอบขวดแล้วต้องดูเป็นแผ่นเดียวกันนั่นเอง

ประสบการณ์ทำงานกับ ‘แสงโสม’ แบรนด์ที่ให้คุณค่ากับศิลปะ

ด้วยความที่คุณมีนอยู่ใกล้ชิดกับแวดวงศิลปะมาตลอด จึงได้เห็นขวดรุ่นพิเศษต่างๆ รวมถึงการสนับสนุน ‘ศิลปินไทย’ ของแสงโสมมาตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อทางแสงโสมติดต่อมาจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น !

คุณมีนมองว่าการที่แบรนด์เลือกนำเอา ‘ศิลปะ’ เข้าไปผสมผสานเป็นส่วนหนึ่ง มีส่วนช่วยให้แบรนด์ได้คุยกับกลุ่มคนที่ทั้งกว้างขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ตรงเป้าหมายมากขึ้น เพราะศิลปะคือเครื่องมือสื่อสารที่ไม่ได้เล่าแค่ Message แต่ยังเล่าไปถึง Character และทิศทางของแบรนด์ได้ด้วย

ความประทับใจในการทำงานกับแสงโสม

ในมุมของ ‘คนออกแบบ’ ที่ได้คุยกับแบรนด์โดยตรง ทำให้คุณมีนได้เห็นเบื้องหลังของแบรนด์ที่คลุกคลีสนับสนุนศิลปินไทยจริงๆ มาอย่างยาวนาน เพราะทุกฝ่ายให้อิสระกับตัวศิลปิน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็น Professional ในการทำงาน พร้อมให้คำแนะนำที่ทำให้สามารถต่อยอดผลงานไปในมุมที่ดีขึ้น

สำหรับตัวคุณมีนเอง งานนี้ทำให้ได้ก้าวข้ามไปในพื้นที่ใหม่ๆ ของการทำงาน, ได้ทดลองเทคนิคแบบที่ไม่เคยใช้, ได้ความมั่นใจ รวมถึงความสนุกที่จะค้นหาต่อยอดแรงบันดาลใจใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต

โอกาสของศิลปินตัวเล็ก ที่จะได้ร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ไม่ใช่เฉพาะสำหรับ meanapas.c แต่หมายถึงศิลปินตัวเล็กๆ ทุกคนนั่นคือ ‘โอกาส’ ในการร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ช่วยทำให้เติบโตทั้งในแง่ประสบการณ์การทำงาน และเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

คุณมีนให้มุมมองว่า แต่ละแบรนด์มักมีเรื่องอยากเล่าและสิ่งที่ต้องการสื่อสารแตกต่างกันไป แบรนด์จึงมักจะมองหาศิลปินที่พูดภาษาเดียวกัน หรือในความหมายก็คือ สไตล์งานดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้

ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ที่เลือกใช้ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งก็มีหลากหลาย หากศิลปินทำงานในแบบของตนเองให้เต็มที่และพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสไตล์แข็งแรงชัดเจน ต้องมีสักแบรนด์ที่ชอบวิธีเล่าเรื่องของเรา และให้โอกาสเราได้ลองทำงานร่วมกันอย่างแน่นอน

เหมือนกับที่แสงโสมเองก็ร่วมงานกับศิลปินหลากหลายสไตล์ และมอบพื้นที่ให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้แสดงฝีมืออยู่เสมอ

ชวนเล่าเมาท์ถึงเพื่อนๆ ในโปรเจกต์อีก 3 ฤดู

จริงๆติดตามผลงานของคุณ juli baker and summer และคุณ nina_sach มานานแล้วและชอบผลงานของทั้งคู่มากๆ ดีใจที่ได้มาร่วมออกแบบในคอลเลคชันเดียวกัน

ส่วนคุณบอมบ์ผู้ออกแบบ Winter Moon นี่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เพราะเป็นศิลปินฝั่ง Fine Arts เจอครั้งแรกก็เห็นเอาชิ้นงานจริงเป็นแคนวาสขนาดใหญ่มาที่ตึกแสงโสมเลย แถมปิดไฟโชว์ความเรืองแสงของงานด้วยอลังการมากๆ (เห็นจุดในงานเค้าก็ปวดหลังแทนแล้วค่ะ !)

“มีนคิดว่าคอลเลคชันนี้
ไม่ใช่แค่ผลงานของศิลปิน 4 คน
แต่มาจากการทำงานโดยทีมงานทุกฝ่าย”

ใครไม่ดื่มแอลกอฮอล์แต่ซื้อเก็บไปแต่งบ้านก็สวยแล้ว มี 4 ลาย 4 สไตล์ให้เลือก (คุณมีนแอบบอกว่า ถ้าลาย Summer Moon มันร้อนไป ซื้อลายไหนก็ได้ค่ะ)